วันอังคารที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ปัญหาสำหรับคนวิเคราะห์ Technical Graph โดยใช้ทฤษฎี อีเลียตเวฟ

 

3 ปัญหาโลกแตกของ อีเลีตเวฟที่คนส่วนใหญ่หลงผิดมากที่สุด (มหากาพย์ เถียงกันไม่รู้จบ ภาค 1)

 

 

 

 

  1.  คลื่น 4 ห้าม Overlap คลื่น 1 ?

ไม่จริงขอรับ!  คลื่น 4 สามารถ เหลื่อมล้ำ  คลื่นที่ 1 ได้ หรือที่ผมมักเรียก คลื่น 4 กินหัว คลื่น 1 ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แน่ๆ เรียกรูปแบบนี้ว่า Terminal Impulse Wave หรือ Elliott Wave หนังสือ บางเล่ม เรียกว่า Diagonal Triangle (Ending Diagonal & Leading Diagonal) ขอยังไม่ชี้แจงรายละเอียดการเปรียบเทียบรายละเอียดข้อมูลจากตำราเรียนแต่ละเล่มครับเพราะว่ารายละเอียดบางส่วนยังมีความขัดแย้งกันระหว่าง หนังสือ Elliott Wave แบบ แบบเก่า รวมทั้ง ตำรา Elliott Wave แนวประยุกต์ (บทเรียนถัดๆไปผมจะมาเปรียบเนื้อหาเชิงลึกกันอีกครั้ง และก็เทคนิควิธีนำไปดัดแปลงจริง)

 

ถ้าหากจะอธิบาย Concept ของคลื่น 4 Overlap คลื่น 1 แบบง่ายๆตามหลัก ทฤษฎีดาวน์ให้เห็นภาพก็คือ เทรนตอนนั้นกำลังอ่อนแรง และจะส่งผลให้เกิดการกลับเทรนนั่นเอง

วิธีการประยุกต์ใช้จริง สไตล์ “โต่ง-เต่ง”นั่นคือTerminal Impulse Wave มักเกิดขึ้นในช่วงปลายเทรนของคลื่นที่ 5เหตุเพราะคลื่น 5หมายถึงชุดคลื่นท้ายที่สุดรวมทั้งจากนั้นก็จะส่งสัญญาณการ Overlap (สัญญาณอ่อนแรง) เพื่อบ่งบอกถึงการเตรียมความพร้อมที่จะย่อลงมาเป็น Correction Wave นั่นเอง หรือคลื่น 5 ดังกล่าวเป็น คลื่นย่อย เช่นปลายคลื่น C ของ Correction Wave ก็จะเป็นสัญญาณเตือนการกลับเทรนเพื่อเป็น Impulse Wave ด้วยเหมือนกัน

Terminal Impulse wave หรือ Diagonal Triangle จะไม่ถือได้ว่า Impulse Wave ครับด้วยเหตุว่าส่วนประกอบภายในไม่ใช่ Impulse Wave แต่จะจัดเป็น Motive Wave

 

 

 

 

 

 

  1. เอลเลียตเวฟ บอกแผนที่ ส่วน ฟีโบนันชี บอกระยะทาง จริงหรือ?

Elliott Wave บอกแผนที่อันนี้จริงนะครับ! เนื่องจากสามารถทำนายบอกตำแหน่ง วัฏจักร (Cycle) ของสถานะคลื่นเดี๋ยวนี้ที่เราอยู่ได้ ส่วน Fibonacci บอกระยะทาง ประโยคนี้ผมมองว่ายังไม่ถูกต้องนะครับ! ตัวเลขต่างๆของ Fibonacci ไม่ได้บอกระยะทางครับผม เราเองต่างหากที่ไปมุ่งมาดว่าราคาจำเป็นต้องวิ่งไปเท่านั้นเท่านี้ อาทิเช่น 161.8% หรือไม่ก็ 261.8% เป็นต้น

อ้าว! แล้วสิ่งใดกันบอกระยะทาง? ตอบ บริบทของสถานะคลื่น Correction ก่อนหน้าต่างหากที่บอกระยะทาง จะเกิดผลลัพธ์ใดขึ้นนั้นต้องเกิดเหตุก่อนเสมอ เช่นเดียวกับ Elliott Waveความยาวของคลื่นถัดไปจะเกิดขึ้นเท่าใด จำเป็นต้องขึ้นอยู่กับบริบทการฟอร์มตัวของ Correction คลื่นก่อนหน้าเสมอ ที่บอกนัยยะแฝงของตลาดว่า Impulse Wave ชุดคลื่นต่อไปได้โอกาสเคลื่อนที่ไปได้มากน้อยแค่ไหน

 

แต่ใช่ว่าทฤษฎีบอกบอกจุดหมายราคาเท่าใด เราก็เชื่อแบบหลับหูหลับตาโดยไม่ได้พิสูจน์อย่างนี้ก็ไม่ถูกจำเป็นต้องครับผม เราต้องเข้าไปวิเคราะห์ส่วนประกอบของสถานะคลื่นย่อยด้วย ว่าคลื่นที่วิ่งขึ้นนั้นมีโอกาสเคลื่อนครบ Cycleในเป้าหมายดังที่ทฤษฎีได้ระบุไว้ไหม

 

 

 

 

  1. แนวทับซ้อนคือTargetของราคา ใช่หรือ?

แนวทับทับกันของFibo หรือที่เรียกว่า Cluster, Confluence , หรือ Price Reversal Zone นั้นสามารถวิเคราะห์ว่าเป็นแถวที่มีนัยได้ในระดับหนึ่งเพียงเท่านั้น ไม่ได้การันตีว่าราคาจะเกิดการกลับตัว ณ จุดนั้นเสมอไป

ปัญหาคือถ้ามีแนวทับซ้อนกันหลายแนว แล้วจะทราบได้ยังไงว่าแนวใดเป็นแนวรับ แนวต้านแท้จริง?

ตอบ สถานะคลื่นย่อยนั่นแหละคือองค์ประกอบหลักในการพิจารณาว่าการ Reversalของราคานั้นควรจะเกิดขึ้น ณ จุดใดเมื่อSub Waveวิ่งครบสถานะCycle อาทิเช่น แนวทับซ้อนFibonacci อยู่ที่ 2 บาท แต่สถานะคลื่นย่อยที่วิ่งกระทยบที่ราคา 2 บาทนั้นยังเคลื่อนไม่ครบสถานะคลื่น ย่อยข้างใน ลักษณะแบบนี้แนวทับซ้อนของฟีโบ ที่ 2 บาทก็ไม่สามารถที่จะเป็นแนวต้านของแท้ได้

 

 

ท่านสามารถเรียนรู้บทความเผยแพร่เทคนิค สอนเล่นหุ้น ประยุกต์ใช้ ทฤษฎี Elliott Wave สำหรับวิเคราะห์กราฟหุ้น  ฟรี 100 % บนWeb Blog “มโน-เวฟ ดอท คอม” www.mano-wave.com

 

 

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : Elliott wave หนังสือ

เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.mano-wave.com/p/elliott-wave-book.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น