3 ปัญหาโลกแตกของ อีเลียตเวฟที่คนส่วนใหญ่หลงผิดเยอะที่สุด (มหากาพย์ โต้แย้งกันไม่สิ้นสุด ภาค 1)
-
คลื่น 4 ห้าม เหลื่อมล้ำ คลื่น 1 ?
ไม่จริงครับ! คลื่น 4 สามารถ เหลื่อมล้ำ คลื่นที่ 1 ได้ หรือที่ผมเรียกว่า คลื่น 4 กินหัว คลื่น 1 ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แน่ๆ เรียกลักษณะนี้ว่า Terminal Impulse Wave หรือ Elliott Wave หนังสือ บางเล่ม เรียกว่า Diagonal Triangle (Ending Diagonal & Leading Diagonal) ขอยังไม่อธิบายเนื้อหาการเปรียบเทียบเนื้อหาข้อมูลที่ได้มาจากแบบเรียนแต่ละเล่มครับเนื่องจากเนื้อหาบางส่วนยังขัดแย้งกันระหว่าง หนังสือ Elliott Wave แบบ Classic แล้วก็ ตำรา Elliott Wave แนวประยุกต์ (บทเรียนถัดๆไปผมจะมาเปรียบเทียบเนื้อหาเชิงลึกกันอีกรอบ รวมทั้งเทคนิควิธีนำไปปรับใช้จริง)
ถ้าจะชี้แจง Concept ของคลื่น 4 Overlap คลื่น 1 แบบง่ายๆตามหลัก Dow Theoryให้เห็นภาพก็คือ เทรนเวลานี้กำลังอ่อนแรง และก็จะส่งผลลัพธ์ให้มีการกลับตัวนั่นเอง
เทคนิคการนำมาใช้จริง สไตล์ “โต่ง-เต่ง”นั่นคือTerminal Impulse Wave มักเกิดขึ้นในช่วงปลายเทรนของคลื่นที่ 5ด้วยเหตุว่าคลื่น 5เป็นชุดคลื่นท้ายที่สุดและก็ต่อจากนั้นก็จะส่งสัญญาณการ เหลื่อมล้ำ (สัญญาณอ่อนกำลัง) เพื่อบอกถึงการเตรียมการที่จะย่อลงมาเป็น Correction Wave นั่นเอง หรือคลื่น 5 ดังกล่าวเป็น Sub Wave ดังเช่นปลายคลื่น C ของ Correction Wave ก็จะเป็นสัญญาณเตือนการกลับตัวเพื่อเป็น Impulse Wave ด้วยเหมือนกัน
Terminal Impulse wave หรือ Diagonal Triangle จะไม่นับว่าเป็น Impulse Wave ครับเนื่องจากองค์ประกอบภายในไม่ใช่ Impulse Wave แต่จะจัดเป็น Motive Wave
-
เอลเลียตเวฟ บอกแผนที่ ส่วน Fibo บอกระยะทาง ใช่หรือ?
Elliott Wave บอกแผนที่อันนี้จริงนะครับ! เนื่องจากว่าสามารถคาดเดาบอกตำแหน่ง วัฏจักร (Cycle) ของสถานะคลื่นปัจจุบันที่เราอยู่ได้ ส่วน Fibonacci บอกระยะทาง ประโยคนี้ผมคิดว่ายังไม่ถูกต้องครับผม! ตัวเลขต่างๆของ ฟีโบนันชี ไม่ได้บอกระยะทางครับ พวกเราเองต่างหากที่ไปคาดหมายว่าราคาต้องเคลื่อนที่ไปเท่านั้นเท่านี้ ยกตัวอย่างเช่น 161.8% หรือไม่ก็ 261.8% เป็นต้น
อ้าว! แล้วสิ่งใดกันบอกระยะทาง? ตอบ บริบทของสถานะคลื่น ปรับ ก่อนหน้าต่างหากที่บอกระยะทาง จะเป็นผลลัพธ์ไหนขึ้นนั้นจำเป็นที่จะต้องเกิดเหตุก่อนเสมอ เหมือนกับ อีเลีตเวฟความยาวของคลื่นถัดไปจะเกิดขึ้นเท่าไร จะต้องขึ้นอยู่กับบริบทการปรับตัวของ Correction คลื่นก่อนหน้าเสมอ ที่บอกนัยยะแฝงของตลาดว่า Impulse Wave ชุดคลื่นถัดไปได้โอกาสเคลื่อนไปได้มากน้อยแค่ไหน
แต่ใช่ว่าทฤษฎีบอกบอกเป้าหมายราคาเท่าใด เราก็เชื่อแบบหลับหูหลับตาโดยไม่ได้พิสูจน์แบบนี้ก็ผิดต้องนะครับ พวกเราจำเป็นจะต้องเข้าไปวิเคราะห์องค์ประกอบของสถานะคลื่นย่อยด้วย ว่าคลื่นที่วิ่งขึ้นนั้นมีโอกาสเคลื่อนครบ Cycleในเป้าหมายดังที่ทฤษฎีได้กำหนดไว้ไหม
-
แนวทับซ้อนคือเป้าหมายของราคา ใช่หรือ?
แนวทับซ้อนกันของฟีโบ หรือที่เรียกว่า Cluster, Confluence , หรือ Price Reversal Zone นั้นสามารถพิเคราะห์ว่าเป็นแนวที่มีความนัยได้ในระดับหนึ่งแค่นั้น ไม่ได้การันตีว่าราคาจะมีการกลับตัว ณ จุดนั้นเสมอ
ปัญหาคือถ้ามีแนวทับทับกันหลายแนว แล้วจะทราบได้เช่นไรว่าแนวอันไหนเป็นแนวรับ แนวResistanceแท้จริง?
ตอบ สถานะคลื่นข้างในต่างหากที่เป็นส่วนประกอบหลักในการพิจารณาว่าการ Reversalของราคานั้นควรเกิดขึ้น ณ จุดใดเมื่อคลื่นย่อยวิ่งครบสถานะCycle ยกตัวอย่างเช่น แนวทับซ้อนFibo อยู่ที่ 2 บาท แต่สถานะคลื่นย่อยที่วิ่งขึ้นกระทยบที่ราคา 2 บาทนั้นยังเคลื่อนที่ไม่ครบสถานะคลื่น ย่อยด้านใน ลักษณะแบบนี้แนวทับซ้อนของฟีโบนันชี ที่ 2 บาทก็ไม่สามารถเป็นแนวต้านของแท้ได้
ท่านสามารถเรียนรู้บทความเผยแพร่ความรู้ สอนเล่นหุ้น ประยุกต์ใช้ ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อวิเคราะห์กราฟหุ้น Free 100 % ผ่านเว็บบล็อก “มโน-เวฟ ดอท คอม” www.mano-wave.com
เครดิต : http://www.mano-wave.com/p/vdo-elliott-wave-elliott-wave.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น