วันเสาร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ปัญหาสำหรับผู้วิเคราะห์เทคนิคอลกราฟ โดยใช้ทฤษฎี Elliott Wave

 

3 ปัญหาโลกแตกของ อีเลียตเวฟที่คนส่วนใหญ่หลงผิดเยอะที่สุด (มหากาพย์ โต้แย้งกันไม่สิ้นสุด ภาค 1)

 

 

 

 

  1.  คลื่น 4 ห้าม เหลื่อมล้ำ คลื่น 1 ?

ไม่จริงครับ!  คลื่น 4 สามารถ เหลื่อมล้ำ  คลื่นที่ 1 ได้ หรือที่ผมเรียกว่า คลื่น 4 กินหัว คลื่น 1 ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แน่ๆ เรียกลักษณะนี้ว่า Terminal Impulse Wave หรือ Elliott Wave หนังสือ บางเล่ม เรียกว่า Diagonal Triangle (Ending Diagonal & Leading Diagonal) ขอยังไม่อธิบายเนื้อหาการเปรียบเทียบเนื้อหาข้อมูลที่ได้มาจากแบบเรียนแต่ละเล่มครับเนื่องจากเนื้อหาบางส่วนยังขัดแย้งกันระหว่าง หนังสือ Elliott Wave แบบ Classic แล้วก็ ตำรา Elliott Wave แนวประยุกต์ (บทเรียนถัดๆไปผมจะมาเปรียบเทียบเนื้อหาเชิงลึกกันอีกรอบ รวมทั้งเทคนิควิธีนำไปปรับใช้จริง)

 

ถ้าจะชี้แจง Concept ของคลื่น 4 Overlap คลื่น 1 แบบง่ายๆตามหลัก Dow Theoryให้เห็นภาพก็คือ เทรนเวลานี้กำลังอ่อนแรง และก็จะส่งผลลัพธ์ให้มีการกลับตัวนั่นเอง

เทคนิคการนำมาใช้จริง สไตล์ “โต่ง-เต่ง”นั่นคือTerminal Impulse Wave มักเกิดขึ้นในช่วงปลายเทรนของคลื่นที่ 5ด้วยเหตุว่าคลื่น 5เป็นชุดคลื่นท้ายที่สุดและก็ต่อจากนั้นก็จะส่งสัญญาณการ เหลื่อมล้ำ (สัญญาณอ่อนกำลัง) เพื่อบอกถึงการเตรียมการที่จะย่อลงมาเป็น Correction Wave นั่นเอง หรือคลื่น 5 ดังกล่าวเป็น Sub Wave ดังเช่นปลายคลื่น C ของ Correction Wave ก็จะเป็นสัญญาณเตือนการกลับตัวเพื่อเป็น Impulse Wave ด้วยเหมือนกัน

Terminal Impulse wave หรือ Diagonal Triangle จะไม่นับว่าเป็น Impulse Wave ครับเนื่องจากองค์ประกอบภายในไม่ใช่ Impulse Wave แต่จะจัดเป็น Motive Wave

 

 

 

 

 

 

  1. เอลเลียตเวฟ บอกแผนที่ ส่วน Fibo บอกระยะทาง ใช่หรือ?

Elliott Wave บอกแผนที่อันนี้จริงนะครับ! เนื่องจากว่าสามารถคาดเดาบอกตำแหน่ง วัฏจักร (Cycle) ของสถานะคลื่นปัจจุบันที่เราอยู่ได้ ส่วน Fibonacci บอกระยะทาง ประโยคนี้ผมคิดว่ายังไม่ถูกต้องครับผม! ตัวเลขต่างๆของ ฟีโบนันชี ไม่ได้บอกระยะทางครับ พวกเราเองต่างหากที่ไปคาดหมายว่าราคาต้องเคลื่อนที่ไปเท่านั้นเท่านี้ ยกตัวอย่างเช่น 161.8% หรือไม่ก็ 261.8% เป็นต้น

อ้าว! แล้วสิ่งใดกันบอกระยะทาง? ตอบ บริบทของสถานะคลื่น ปรับ ก่อนหน้าต่างหากที่บอกระยะทาง จะเป็นผลลัพธ์ไหนขึ้นนั้นจำเป็นที่จะต้องเกิดเหตุก่อนเสมอ เหมือนกับ อีเลีตเวฟความยาวของคลื่นถัดไปจะเกิดขึ้นเท่าไร จะต้องขึ้นอยู่กับบริบทการปรับตัวของ Correction คลื่นก่อนหน้าเสมอ ที่บอกนัยยะแฝงของตลาดว่า Impulse Wave ชุดคลื่นถัดไปได้โอกาสเคลื่อนไปได้มากน้อยแค่ไหน

 

แต่ใช่ว่าทฤษฎีบอกบอกเป้าหมายราคาเท่าใด เราก็เชื่อแบบหลับหูหลับตาโดยไม่ได้พิสูจน์แบบนี้ก็ผิดต้องนะครับ พวกเราจำเป็นจะต้องเข้าไปวิเคราะห์องค์ประกอบของสถานะคลื่นย่อยด้วย ว่าคลื่นที่วิ่งขึ้นนั้นมีโอกาสเคลื่อนครบ Cycleในเป้าหมายดังที่ทฤษฎีได้กำหนดไว้ไหม

 

 

 

 

  1. แนวทับซ้อนคือเป้าหมายของราคา ใช่หรือ?

แนวทับซ้อนกันของฟีโบ หรือที่เรียกว่า Cluster, Confluence , หรือ Price Reversal Zone นั้นสามารถพิเคราะห์ว่าเป็นแนวที่มีความนัยได้ในระดับหนึ่งแค่นั้น ไม่ได้การันตีว่าราคาจะมีการกลับตัว ณ จุดนั้นเสมอ

ปัญหาคือถ้ามีแนวทับทับกันหลายแนว แล้วจะทราบได้เช่นไรว่าแนวอันไหนเป็นแนวรับ แนวResistanceแท้จริง?

ตอบ สถานะคลื่นข้างในต่างหากที่เป็นส่วนประกอบหลักในการพิจารณาว่าการ Reversalของราคานั้นควรเกิดขึ้น ณ จุดใดเมื่อคลื่นย่อยวิ่งครบสถานะCycle ยกตัวอย่างเช่น แนวทับซ้อนFibo อยู่ที่ 2 บาท แต่สถานะคลื่นย่อยที่วิ่งขึ้นกระทยบที่ราคา 2 บาทนั้นยังเคลื่อนที่ไม่ครบสถานะคลื่น ย่อยด้านใน ลักษณะแบบนี้แนวทับซ้อนของฟีโบนันชี ที่ 2 บาทก็ไม่สามารถเป็นแนวต้านของแท้ได้

 

 

ท่านสามารถเรียนรู้บทความเผยแพร่ความรู้ สอนเล่นหุ้น ประยุกต์ใช้ ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อวิเคราะห์กราฟหุ้น  Free 100 % ผ่านเว็บบล็อก “มโน-เวฟ ดอท คอม” www.mano-wave.com

 

 

 



เครดิต : http://www.mano-wave.com/p/vdo-elliott-wave-elliott-wave.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น