วันพฤหัสบดีที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ปัญหาสำหรับคนที่วิเคราะห์กราฟเทคนิคหุ้น โดยใช้ทฤษฎี อีเลีตเวฟ

 

3 ปัญหาโลกแตกของ อีเลีตเวฟที่คนจำนวนมากหลงผิดเยอะที่สุด (มหากาพย์ โต้เถียงกันไม่รู้จบ ภาค 1)

 

 

 

 

  1.  คลื่น 4 ห้าม Overlap คลื่น 1 ?

ไม่จริงครับ!  คลื่น 4 สามารถ Overlap  คลื่นที่ 1 ได้ หรือที่ผมเรียกว่า คลื่น 4 กินหัว คลื่น 1 ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แน่ๆ เรียกลักษณะนี้ว่า Terminal Impulse Wave หรือ Elliott Wave หนังสือ บางเล่ม เรียกว่า Diagonal Triangle (Ending Diagonal & Leading Diagonal) ขอยังไม่อธิบายรายละเอียดการเปรียบเทียบรายละเอียดข้อมูลจากตำราเรียนแต่ละเล่มนะครับเนื่องจากเนื้อหาบางส่วนยังมีความขัดแย้งกันระหว่าง หนังสือ Elliott Wave แบบ แบบเก่า แล้วก็ ตำรา Elliott Wave แนวประยุกต์ (บทเรียนถัดๆไปผมจะมาเปรียบข้อมูลเชิงลึกกันอีกรอบ รวมทั้งเคล็ดวิธีแนวทางนำไปปรับใช้จริง)

 

หากจะอธิบาย Concept ของคลื่น 4 Overlap คลื่น 1 แบบง่ายๆตามหลัก ทฤษฎีดาวน์ให้เห็นภาพก็คือ เทรนเวลานี้กำลังอ่อนแรง รวมทั้งจะส่งผลลัพธ์ให้เกิดการกลับเทรนนั่นเอง

เทคนิคการประยุกต์ใช้จริง สไตล์ “โต่ง-เต่ง”นั่นคือTerminal Impulse Wave มักเกิดขึ้นในช่วงปลายเทรนของคลื่นที่ 5เนื่องด้วยคลื่น 5เป็นชุดคลื่นสุดท้ายและก็ต่อจากนั้นก็จะส่งสัญญาณการ เหลื่อมล้ำ (สัญญาณอ่อนกำลัง) เพื่อบ่งบอกถึงการเตรียมพร้อมที่จะย่อลงมาเป็น คลื่นปรับ นั่นเอง หรือคลื่น 5 ดังที่กล่าวถึงแล้วเป็น คลื่นย่อย ยกตัวอย่างเช่นปลายคลื่น C ของ Correction Wave ก็จะเป็นสัญญาณเตือนการกลับเทรนเพื่อเป็น Impulse Wave เช่นเดียวกัน

Terminal Impulse wave หรือ Diagonal Triangle จะไม่นับว่าเป็น Impulse Wave ครับผมด้วยเหตุว่าองค์ประกอบภายในไม่ใช่ Impulse Wave แต่ว่าจะจัดเป็น Motive Wave

 

 

 

 

 

 

  1. อีเลียตเวฟ บอกแผนที่ ส่วน ฟีโบนันชี บอกระยะทาง ใช่หรือ?

Elliott Wave บอกแผนที่อันนี้จริงครับผม! เพราะเหตุว่าสามารถทำนายบอกตำแหน่ง วัฏจักร (Cycle) ของสถานะคลื่นเดี๋ยวนี้ที่เราอยู่ได้ ส่วน Fibonacci บอกระยะทาง ประโยคนี้ผมเห็นว่ายังไม่ถูกต้องครับผม! จำนวนต่างๆของ Fibonacci มิได้บอกระยะทางครับ เราเองต่างหากที่ไปมุ่งมาดว่าราคาจำต้องเคลื่อนที่ไปเท่านั้นเท่านี้ อาทิเช่น 161.8% หรือไม่ก็ 261.8% เป็นต้น

อ้าว! แล้วสิ่งใดกันบอกระยะทาง? ตอบ บริบทของสถานะคลื่น ปรับ ก่อนหน้าต่างหากที่บอกระยะทาง จะเกิดผลลัพธ์ใดขึ้นนั้นจะต้องเกิดเหตุก่อนเสมอ เหมือนกันกับ อีเลียตเวฟความยาวของคลื่นต่อไปจะเกิดขึ้นเท่าไร จำต้องขึ้นกับบริบทการปรับตัวของ Correction คลื่นก่อนหน้าเสมอ ที่บอกนัยยะแอบแฝงของตลาดว่า Impulse Wave ชุดคลื่นต่อไปได้โอกาสวิ่งขึ้นไปได้มากน้อยเท่าใด

 

แต่ใช่ว่าทฤษฎีบอกบอกจุดหมายราคาเท่าไหร่ พวกเราก็เชื่อแบบหลับหูหลับตาโดยไม่ได้พิสูจน์แบบนี้ก็ไม่ถูกจะต้องครับผม พวกเราจำต้องเข้าไปวิเคราะห์องค์ประกอบของสถานะคลื่นย่อยด้วย ว่าชุดคลื่นที่เคลื่อนที่นั้นมีโอกาสวิ่งครบ Cycle ณ จุดหมายจากที่ทฤษฎีได้เจาะจงไว้หรือไม่

 

 

 

 

  1. แนวทับซ้อนเป็นเป้าหมายของราคา จริงหรือไม่?

แนวทับซ้อนกันของFibonacci หรือที่เรียกว่า Cluster, Confluence , หรือ Price Reversal Zone นั้นสามารถวิเคราะห์ว่าเป็นแถวที่มีความนัยได้ในระดับหนึ่งเพียงแค่นั้น ไม่ได้การันตีว่าราคาจะมีการกลับเทรนในจุดนั้นเสมอ

ปริศนาคือหากมีแนวทับทับกันหลายแนว แล้วจะทราบได้เช่นไรว่าแนวใดเป็นแนวรับ แนวResistanceของจริง?

ตอบ สถานะคลื่นด้านในนั่นแหละคือองค์ประกอบหลักสำหรับเพื่อการพิจารณาว่าการกลับตัวของราคานั้นควรเกิดขึ้น ณ จุดใดเมื่อSub Waveวิ่งครบสถานะคลื่น เป็นต้นว่า แนวทับซ้อนFibo อยู่ที่ 2 บาท แต่ว่าสถานะSub Waveที่วิ่งชนที่ราคา 2 บาทนั้นยังเคลื่อนที่ไม่ครบสถานะCycle ย่อยภายใน ลักษณะเช่นนี้แนวทับซ้อนของฟีโบ ที่ 2 บาทก็ไม่อาจจะเป็นแนวต้านของแท้ได้

 

 

ท่านสามารถเรียนรู้บทความเผยแพร่ความรู้ สอนเล่นหุ้น โดยใช้ ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อนำมาวิเคราะห์กราฟหุ้น  ฟรี 100 % ผ่านเว็บบล็อก “มโน-เวฟ ดอท คอม” www.mano-wave.com

 

 

 



ที่มา : http://www.mano-wave.com/p/elliott-wave-book.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น