วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ปัญหาสำหรับคนวิเคราะห์กราฟเทคนิคหุ้น โดยใช้ทฤษฎี อีเลียตเวฟ

 

3 ปัญหาโลกแตกของ Elliott Waveที่คนจำนวนมากรู้ผิดสูงที่สุด (มหากาพย์ โต้เถียงกันไม่รู้จักจบสิ้น ภาค 1)

 

 

 

 

  1.  คลื่น 4 ห้าม เหลื่อมล้ำ คลื่น 1 ?

ไม่จริงนะครับ!  คลื่น 4 สามารถ Overlap  คลื่นที่ 1 ได้ หรือที่ผมเรียกว่า คลื่น 4 กินหัว คลื่น 1 ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แน่ๆ เรียกลักษณะนี้ว่า Terminal Impulse Wave หรือ Elliott Wave หนังสือ บางเล่ม เรียกว่า Diagonal Triangle (Ending Diagonal & Leading Diagonal) ขอยังไม่อธิบายรายละเอียดการเปรียบเทียบรายละเอียดข้อมูลที่ได้รับมาจากตำราแต่ละเล่มนะครับเพราะรายละเอียดบางส่วนยังขัดแย้งกันระหว่าง หนังสือ Elliott Wave แบบ สมัยเก่า และ ตำรา Elliott Wave แนวประยุกต์ (บทเรียนถัดๆไปผมจะมาเปรียบข้อมูลเชิงลึกกันอีกครั้ง รวมทั้งเทคนิคแนวทางนำไปประยุกต์ใช้จริง)

 

หากจะชี้แจง Concept ของคลื่น 4 Overlap คลื่น 1 แบบง่ายๆตามหลัก Dow Theoryให้เห็นภาพก็คือ เทรนเวลานี้กำลังอ่อนแรง แล้วก็จะส่งผลให้มีการกลับตัวนั่นเอง

แนวทางการนำมาใช้จริง สไตล์ “โต่ง-เต่ง”นั่นคือTerminal Impulse Wave บ่อยครั้งเกิดขึ้นในช่วงปลายเทรนของคลื่นที่ 5เพราะคลื่น 5เป็นชุดคลื่นสุดท้ายแล้วก็ต่อไปก็จะส่งสัญญาณการ Overlap (สัญญาณอ่อนแรง) เพื่อบ่งถึงการเตรียมความพร้อมที่จะย่อลงมาเป็น คลื่นปรับ นั่นเอง หรือคลื่น 5 ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็น คลื่นย่อย อย่างเช่นปลายคลื่น C ของ Correction Wave ก็จะเป็นสัญญาณเตือนการกลับเทรนเพื่อเป็น Impulse Wave เช่นกัน

Terminal Impulse wave หรือ Diagonal Triangle จะไม่นับได้ว่าเป็น Impulse Wave ครับผมเนื่องจากโครงสร้างภายในไม่ใช่ Impulse Wave แต่จะจัดเป็น Motive Wave

 

 

 

 

 

 

  1. เอลเลียตเวฟ บอกแผนที่ ส่วน Fibonacci บอกระยะทาง จริงหรือ?

Elliott Wave บอกแผนที่ในส่วนนี้จริงครับ! เพราะเหตุว่าสามารถคาดเดาบอกตำแหน่ง วัฏจักร (Cycle) ของสถานะคลื่นปัจจุบันนี้ที่เราอยู่ได้ ส่วน ฟีโบ บอกระยะทาง ประโยคนี้ผมเห็นว่ายังไม่ถูกต้องครับ! ตัวเลขต่างๆของ ฟีโบนันชี มิได้บอกระยะทางครับผม เราเองต่างหากที่ไปมุ่งหวังว่าราคาจำต้องเคลื่อนที่ไปเท่านั้นเท่านี้ ยกตัวอย่างเช่น 161.8% หรือไม่ก็ 261.8% ฯลฯ

อ้าว! แล้วสิ่งใดกันบอกระยะทาง? ตอบ บริบทของสถานะคลื่น ปรับ ก่อนหน้าต่างหากที่บอกระยะทาง จะเป็นผลลัพธ์ไหนขึ้นนั้นจึงควรเกิดเหตุก่อนเสมอ เหมือนกับ อีเลียตเวฟความยาวของคลื่นถัดไปจะเกิดขึ้นเท่าไร จะต้องขึ้นอยู่กับบริบทการฟอร์มตัวของ Correction คลื่นก่อนหน้าเสมอ ที่บอกนัยยะแฝงของตลาดว่า Impulse Wave ชุดคลื่นถัดไปได้โอกาสเคลื่อนที่ไปได้มากน้อยแค่ไหน

 

แต่ว่าใช่ว่าทฤษฎีบอกบอกเป้าหมายราคามากแค่ไหน เราก็เชื่อแบบหลับหูหลับตาโดยมิได้พิสูจน์อย่างนี้ก็ผิดจำต้องครับ เราจึงควรเข้าไปพินิจพิจารณาองค์ประกอบของสถานะSub waveด้วย ว่าชุดคลื่นที่วิ่งขึ้นนั้นมีโอกาสวิ่งครบ Cycleในจุดหมายจากที่ทฤษฎีได้ระบุไว้ไหม

 

 

 

 

  1. แนวทับซ้อนเป็นTargetของราคา จริงหรือ?

แนวทับทับกันของFibo หรือที่เรียกว่า Cluster, Confluence , หรือ Price Reversal Zone นั้นสามารถพิจารณาว่าเป็นแถวที่มีความนัยได้ในระดับหนึ่งเพียงเท่านั้น ไม่ได้การันตีว่าราคาจะเกิดการกลับเทรนในจุดนั้นเสมอ

ปริศนาคือถ้าเกิดมีแนวทับทับกันหลายแนว แล้วจะทราบได้ยังไงว่าแนวอันไหนเป็นแนวรับ แนวResistanceของจริง?

ตอบ สถานะคลื่นSub waveต่างหากที่เป็นส่วนประกอบหลักสำหรับเพื่อการพิจารณาว่าการ Reversalของราคานั้นควรจะเกิดขึ้น ณ จุดใดเมื่อคลื่นย่อยวิ่งครบสถานะคลื่น อย่างเช่น แนวทับซ้อนFibo อยู่ที่ 2 บาท แต่ว่าสถานะคลื่นย่อยที่ขึ้นกระทยบที่ราคา 2 บาทนั้นยังเคลื่อนไม่ครบสถานะคลื่น ย่อยภายใน ลักษณะแบบนี้แนวทับซ้อนของฟีโบนันชี ที่ 2 บาทก็ไม่อาจจะเป็นแนวต้านของแท้ได้

 

 

คุณสามารถเรียนรู้บทความเผยแพร่เทคนิค สอนเล่นหุ้น โดยใช้ ทฤษฎี Elliott Wave สำหรับนำมาวิเคราะห์กราฟหุ้น  Free 100 % บนเว็ปไซต์ “มโน-เวฟ ดอท คอม” www.mano-wave.com

 

 

 



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.mano-wave.com/p/elliott-wave-book.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น