วันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ปัญหาสำหรับคนที่วิเคราะห์ Technical Graph โดยใช้ทฤษฎี อีเลีตเวฟ

 

3 ปัญหาโลกแตกของ อีเลียตเวฟที่คนโดยมากเข้าใจผิดเยอะที่สุด (มหากาพย์ แย้งกันไม่รู้จักจบสิ้น ภาค 1)

 

 

 

 

  1.  คลื่น 4 ห้าม Overlap คลื่น 1 ?

ไม่จริงนะครับ!  คลื่น 4 สามารถ Overlap  คลื่นที่ 1 ได้ หรือที่ผมเรียกว่า คลื่น 4 กินหัว คลื่น 1 ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แน่นอน เรียกลักษณะนี้ว่า Terminal Impulse Wave หรือ Elliott Wave หนังสือ บางเล่ม เรียกว่า Diagonal Triangle (Ending Diagonal & Leading Diagonal) ขออนุญาตยังไม่ชี้แจงเนื้อหาการเปรียบเทียบเนื้อหาข้อมูลที่ได้มาจากตำราเรียนแต่ละเล่มนะครับเนื่องจากรายละเอียดบางส่วนยังมีความขัดแย้งกันระหว่าง หนังสือ Elliott Wave แบบ Classic รวมทั้ง ตำรา Elliott Wave แนวประยุกต์ (บทเรียนถัดๆไปผมจะมาเปรียบเทียบเนื้อหาเชิงลึกกันอีกที และเทคนิคแนวทางนำไปดัดแปลงจริง)

 

หากจะชี้แจง Concept ของคลื่น 4 Overlap คลื่น 1 แบบง่ายๆตามหลัก Dow Theoryให้เห็นภาพก็คือ เทรนในเวลานั้นกำลังอ่อนกำลัง และจะมีผลให้มีการกลับเทรนนั่นเอง

แนวทางการประยุกต์ใช้จริง สไตล์ “โต่ง-เต่ง”นั่นคือTerminal Impulse Wave มักเกิดขึ้นในช่วงปลายเทรนของคลื่นที่ 5เพราะว่าคลื่น 5เป็นชุดคลื่นท้ายที่สุดและก็ต่อไปก็จะส่งสัญญาณการ เหลื่อมล้ำ (สัญญาณอ่อนแรง) เพื่อบ่งถึงการเตรียมพร้อมที่จะย่อลงมาเป็น คลื่นปรับ นั่นเอง หรือคลื่น 5 ดังกล่าวเป็น Sub Wave ดังเช่นปลายคลื่น C ของ Correction Wave ก็จะเป็นสัญญาณเตือนการกลับตัวเพื่อเป็น Impulse Wave เช่นเดียวกัน

Terminal Impulse wave หรือ Diagonal Triangle จะไม่ถือได้ว่า Impulse Wave นะครับเนื่องจากส่วนประกอบข้างในไม่ใช่ Impulse Wave แต่ว่าจะจัดเป็น Motive Wave

 

 

 

 

 

 

  1. อีเลีตเวฟ บอกแผนที่ ส่วน ฟีโบ บอกระยะทาง จริงหรือ?

Elliott Wave บอกแผนที่อันนี้จริงนะครับ! เพราะว่าสามารถพยากรณ์บอกตำแหน่ง วัฏจักร (Cycle) ของสถานะคลื่นปัจจุบันนี้ที่เราอยู่ได้ ส่วน ฟีโบนันชี บอกระยะทาง ประโยคนี้ผมคิดว่ายังไม่ถูกต้องครับผม! ตัวเลขต่างๆของ Fibonacci มิได้บอกระยะทางครับผม พวกเราเองต่างหากที่ไปมุ่งมาดว่าราคาต้องเคลื่อนที่ไปเท่านั้นเท่านี้ อย่างเช่น 161.8% หรือไม่ก็ 261.8% เป็นต้น

อ้าว! แล้วสิ่งใดกันบอกระยะทาง? ตอบ บริบทของสถานะคลื่น ปรับ ก่อนหน้าต่างหากที่บอกระยะทาง จะเกิดผลลัพธ์ใดขึ้นนั้นจึงควรเกิดเหตุก่อนเสมอ เหมือนกันกับ อีเลียตเวฟความยาวของคลื่นถัดไปจะเกิดขึ้นมากแค่ไหน ต้องขึ้นอยู่กับบริบทการปรับตัวของ Correction คลื่นก่อนหน้าเสมอ ที่บอกนัยยะแฝงของตลาดว่า Impulse Wave ชุดคลื่นถัดไปมีโอกาสเคลื่อนไปได้มากน้อยเท่าใด

 

แม้กระนั้นใช่ว่าทฤษฎีบอกบอกจุดหมายราคามากแค่ไหน พวกเราก็เชื่อแบบหลับหูหลับตาโดยไม่ได้พิสูจน์แบบงี้ก็ผิดจำต้องครับ เราจึงควรเข้าไปพิจารณาส่วนประกอบของสถานะSub waveด้วย ว่าคลื่นที่เคลื่อนที่นั้นมีโอกาสวิ่งครบ Cycle ณ เป้าหมายตามที่ทฤษฎีได้เจาะจงไว้หรือเปล่า

 

 

 

 

  1. แนวทับซ้อนเป็นTargetของราคา จริงหรือ?

แนวทับทับกันของFibonacci หรือที่เรียกว่า Cluster, Confluence , หรือ Price Reversal Zone นั้นสามารถวิเคราะห์ว่าเป็นแนวที่มีนัยได้ในระดับหนึ่งแค่นั้น ไม่ได้การันตีว่าราคาจะเกิดการกลับตัวในจุดนั้นเสมอไป

ปริศนาคือถ้าเกิดมีแนวทับซ้อนกันหลายแนว แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแนวไหนเป็นแนวรับ แนวResistanceแท้จริง?

ตอบ สถานะคลื่นด้านในต่างหากที่เป็นส่วนประกอบหลักสำหรับในการพิจารณาว่าการ Reversalของราคานั้นควรเกิดขึ้นในจุดใดเมื่อคลื่นย่อยเคลื่อนครบสถานะCycle ดังเช่นว่า แนวทับซ้อนฟีโบนันชี อยู่ที่ 2 บาท แต่ว่าสถานะคลื่นย่อยที่วิ่งขึ้นชนที่ราคา 2 บาทนั้นยังวิ่งไม่ครบสถานะคลื่น ย่อยด้านใน ลักษณะแบบนี้แนวทับซ้อนของFibonacci ที่ 2 บาทก็ไม่อาจจะเป็นแนวResistanceของแท้ได้

 

 

คุณสามารถเรียนบทความเผยแพร่ความรู้ สอนเล่นหุ้น โดยใช้ ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อวิเคราะห์กราฟหุ้น  Free 100 % บนWebsite “มโน-เวฟ ดอท คอม” www.mano-wave.com

 

 

 



ที่มา : http://www.mano-wave.com/p/elliott-wave-book.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น