วันพุธที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ปัญหาสำหรับคนที่วิเคราะห์ Technical Graph โดยใช้ทฤษฎี อีเลีตเวฟ

 

3 ปัญหาโลกแตกของ เอลเลียตเวฟที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเยอะที่สุด (มหากาพย์ โต้แย้งกันไม่สิ้นสุด ภาค 1)

 

 

 

 

  1.  คลื่น 4 ห้าม เหลื่อมล้ำ คลื่น 1 ?

ไม่จริงขอรับ!  คลื่น 4 สามารถ เหลื่อมล้ำ  คลื่นที่ 1 ได้ หรือที่ผมเรียกว่า คลื่น 4 กินหัว คลื่น 1 สามารถเกิดขึ้นได้แน่นอน เรียกลักษณะนี้ว่า Terminal Impulse Wave หรือ Elliott Wave หนังสือ บางเล่ม เรียกว่า Diagonal Triangle (Ending Diagonal & Leading Diagonal) ขออนุญาตยังไม่ชี้แจงเนื้อหาการเปรียบเทียบรายละเอียดข้อมูลที่ได้รับมาจากตำราแต่ละเล่มครับเพราะรายละเอียดบางส่วนยังขัดแย้งกันระหว่าง หนังสือ Elliott Wave แบบ สมัยเก่า และ ตำรา Elliott Wave แนวประยุกต์ (บทเรียนถัดๆไปผมจะมาเปรียบเทียบเนื้อหาเชิงลึกกันอีกครั้ง และเทคนิคแนวทางนำไปปรับใช้จริง)

 

แม้จะชี้แจง Concept ของคลื่น 4 Overlap คลื่น 1 แบบง่ายๆตามหลัก ทฤษฎีดาวน์ให้เห็นภาพก็คือ เทรนในช่วงเวลานั้นกำลังอ่อนกำลัง แล้วก็จะมีผลให้มีการกลับเทรนนั่นเอง

วิธีการนำมาใช้จริง สไตล์ “โต่ง-เต่ง”นั่นคือTerminal Impulse Wave มักเกิดขึ้นในช่วงปลายเทรนของคลื่นที่ 5เนื่องจากว่าคลื่น 5เป็นชุดคลื่นท้ายที่สุดแล้วก็หลังจากนั้นก็จะส่งสัญญาณการ เหลื่อมล้ำ (สัญญาณอ่อนกำลัง) เพื่อบ่งบอกถึงการเตรียมความพร้อมที่จะย่อลงมาเป็น คลื่นปรับ นั่นเอง หรือคลื่น 5 ดังที่กล่าวมาแล้วเป็น Sub Wave อย่างเช่นปลายคลื่น C ของ Correction Wave ก็จะเป็นสัญญาณเตือนการกลับเทรนเพื่อเป็น Impulse Wave เหมือนกัน

Terminal Impulse wave หรือ Diagonal Triangle จะไม่ถือว่าเป็น Impulse Wave นะครับเหตุเพราะองค์ประกอบข้างในไม่ใช่ Impulse Wave แต่ว่าจะจัดเป็น Motive Wave

 

 

 

 

 

 

  1. อีเลีตเวฟ บอกแผนที่ ส่วน ฟีโบนันชี บอกระยะทาง จริงหรือ?

Elliott Wave บอกแผนที่ในส่วนนี้จริงครับ! เพราะสามารถทำนายบอกตำแหน่ง วัฏจักร (Cycle) ของสถานะคลื่นปัจจุบันที่เราอยู่ได้ ส่วน ฟีโบ บอกระยะทาง ประโยคนี้ผมคิดว่ายังไม่ถูกต้องครับผม! จำนวนต่างๆของ Fibo ไม่ได้บอกระยะทางครับผม พวกเราเองต่างหากที่ไปคาดหมายว่าราคาจำต้องเคลื่อนที่ไปเท่านั้นเท่านี้ เช่น 161.8% หรือไม่ก็ 261.8% เป็นต้น

อ้าว! แล้วสิ่งใดกันบอกระยะทาง? ตอบ บริบทของสถานะคลื่น Correction ก่อนหน้าต่างหากที่บอกระยะทาง จะเกิดผลลัพธ์ใดขึ้นนั้นต้องเกิดเหตุก่อนเสมอ เหมือนกันกับ อีเลีตเวฟความยาวของคลื่นถัดไปจะเกิดขึ้นมากแค่ไหน ต้องขึ้นอยู่กับบริบทการฟอร์มตัวของ Correction คลื่นก่อนหน้าเสมอ ที่บอกนัยยะแฝงของตลาดว่า Impulse Wave ชุดคลื่นต่อไปมีโอกาสเคลื่อนที่ไปได้มากน้อยเพียงใด

 

แต่ใช่ว่าทฤษฎีบอกบอกเป้าหมายราคาเท่าใด เราก็เชื่อแบบหลับหูหลับตาโดยมิได้พิสูจน์อย่างนี้ก็ไม่ถูกต้องครับ พวกเราจำเป็นต้องเข้าไปพิจารณาองค์ประกอบของสถานะคลื่นย่อยด้วย ว่าคลื่นที่เคลื่อนที่นั้นมีโอกาสวิ่งครบ Cycle ณ จุดหมายตามที่ทฤษฎีได้เจาะจงไว้หรือไม่

 

 

 

 

  1. แนวทับซ้อนคือTargetของราคา จริงหรือไม่?

แนวทับทับกันของFibonacci หรือที่เรียกว่า Cluster, Confluence , หรือ Price Reversal Zone นั้นสามารถพิจารณาว่าเป็นแถวที่มีความนัยได้ในระดับหนึ่งแค่นั้น ไม่ได้การันตีว่าราคาจะเกิดการกลับเทรนในจุดนั้นเสมอไป

คำถามคือถ้าหากมีแนวทับทับกันหลายแนว แล้วจะทราบได้เช่นไรว่าแนวอันไหนเป็นแนวรับ แนวต้านของแท้?

ตอบ สถานะคลื่นSub waveต่างหากที่เป็นส่วนประกอบหลักสำหรับในการพิจารณาว่าการ Reversalของราคานั้นควรเกิดขึ้นในจุดใดเมื่อคลื่นย่อยเคลื่อนครบสถานะคลื่น ได้แก่ แนวทับซ้อนฟีโบ อยู่ที่ 2 บาท แต่สถานะSub Waveที่ขึ้นชนที่ราคา 2 บาทนั้นยังวิ่งไม่ครบสถานะคลื่น ย่อยด้านใน ลักษณะเช่นนี้แนวทับซ้อนของฟีโบ ที่ 2 บาทก็ไม่สามารถที่จะเป็นแนวต้านของจริงได้

 

 

คุณสามารถเรียนบทความเผยแพร่ความรู้ สอนเล่นหุ้น โดยใช้ ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อวิเคราะห์กราฟหุ้น  Free 100 % บนเว็ปไซต์ “มโน-เวฟ ดอท คอม” www.mano-wave.com

 

 

 



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.mano-wave.com/p/elliott-wave-book.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น