วันจันทร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ปัญหาสำหรับคนวิเคราะห์กราฟหุ้น โดยใช้ทฤษฎี อีเลีตเวฟ

 

3 ปัญหาโลกแตกของ เอลเลียตเวฟที่คนส่วนมากเข้าใจผิดมากที่สุด (มหากาพย์ โต้แย้งกันไม่สิ้นสุด ภาค 1)

 

 

 

 

  1.  คลื่น 4 ห้าม Overlap คลื่น 1 ?

ไม่จริงขอรับ!  คลื่น 4 สามารถ เหลื่อมล้ำ  คลื่นที่ 1 ได้ หรือที่ผมมักเรียก คลื่น 4 กินหัว คลื่น 1 ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แน่ๆ เรียกลักษณะนี้ว่า Terminal Impulse Wave หรือ Elliott Wave หนังสือ บางเล่ม เรียกว่า Diagonal Triangle (Ending Diagonal & Leading Diagonal) ขอยังไม่ชี้แจงเนื้อหาการเปรียบเทียบรายละเอียดข้อมูลที่ได้รับมาจากตำราแต่ละเล่มครับเพราะเนื้อหาบางส่วนยังไม่ตรงกันกันระหว่าง หนังสือ Elliott Wave แบบ แบบเก่า และก็ ตำรา Elliott Wave แนวประยุกต์ (บทเรียนถัดๆไปผมจะมาเปรียบข้อมูลเชิงลึกกันอีกที รวมทั้งแนวทางแนวทางนำไปดัดแปลงจริง)

 

ถ้าหากจะชี้แจง Concept ของคลื่น 4 Overlap คลื่น 1 แบบง่ายๆตามหลัก ทฤษฎีดาวน์ให้เห็นภาพก็คือ เทรนในขณะนั้นกำลังอ่อนแรง แล้วก็จะส่งผลลัพธ์ให้เกิดการกลับเทรนนั่นเอง

เทคนิคการประยุกต์ใช้จริง สไตล์ “โต่ง-เต่ง”นั่นคือTerminal Impulse Wave มักเกิดขึ้นในช่วงปลายเทรนของคลื่นที่ 5เนื่องมาจากคลื่น 5เป็นชุดคลื่นสุดท้ายแล้วก็ต่อจากนั้นก็จะส่งสัญญาณการ Overlap (สัญญาณอ่อนแรง) เพื่อบ่งถึงการตระเตรียมที่จะย่อลงมาเป็น คลื่นปรับ นั่นเอง หรือคลื่น 5 ดังกล่าวเป็น Sub Wave เป็นต้นว่าปลายคลื่น C ของ Correction Wave ก็จะเป็นสัญญาณเตือนการกลับตัวเพื่อเป็น Impulse Wave เช่นเดียวกัน

Terminal Impulse wave หรือ Diagonal Triangle จะไม่ถือว่าเป็น Impulse Wave นะครับเนื่องมาจากส่วนประกอบข้างในไม่ใช่ Impulse Wave แต่จะจัดเป็น Motive Wave

 

 

 

 

 

 

  1. อีเลียตเวฟ บอกแผนที่ ส่วน Fibo บอกระยะทาง จริงหรือ?

Elliott Wave บอกแผนที่ในส่วนนี้จริงครับ! เพราะสามารถพยากรณ์บอกตำแหน่ง วัฏจักร (Cycle) ของสถานะคลื่นปัจจุบันที่เราอยู่ได้ ส่วน Fibo บอกระยะทาง ประโยคนี้ผมเห็นว่ายังไม่ถูกต้องนะครับ! ตัวเลขต่างๆของ ฟีโบนันชี มิได้บอกระยะทางนะครับ พวกเราเองต่างหากที่ไปมุ่งมาดว่าราคาจำเป็นต้องเคลื่อนที่ไปเท่านั้นเท่านี้ ได้แก่ 161.8% หรือไม่ก็ 261.8% เป็นต้น

อ้าว! แล้วสิ่งใดกันบอกระยะทาง? ตอบ บริบทของสถานะคลื่น ปรับ ก่อนหน้าต่างหากที่บอกระยะทาง จะเป็นผลลัพธ์ไหนขึ้นนั้นจำต้องเกิดเหตุก่อนเสมอ เหมือนกับ อีเลียตเวฟความยาวของคลื่นต่อไปจะเกิดขึ้นเยอะแค่ไหน ควรต้องขึ้นอยู่กับบริบทการฟอร์มตัวของ Correction คลื่นก่อนหน้าเสมอ ที่บอกนัยยะแฝงของตลาดว่า Impulse Wave ชุดคลื่นต่อไปมีโอกาสเคลื่อนไปได้มากน้อยแค่ไหน

 

แต่ว่าใช่ว่าทฤษฎีบอกบอกเป้าหมายราคาเยอะแค่ไหน เราก็เชื่อแบบหลับหูหลับตาโดยมิได้พิสูจน์อย่างนี้ก็ไม่ถูกจำเป็นต้องนะครับ เราจำเป็นจะต้องเข้าไปพิจารณาส่วนประกอบของสถานะคลื่นย่อยด้วย ว่าคลื่นที่วิ่งขึ้นนั้นมีโอกาสเคลื่อนที่ครบ Cycle ณ จุดหมายจากที่ทฤษฎีได้เจาะจงไว้หรือเปล่า

 

 

 

 

  1. แนวทับซ้อนเป็นTargetของราคา ใช่หรือ?

แนวทับซ้อนกันของฟีโบ หรือที่เรียกว่า Cluster, Confluence , หรือ Price Reversal Zone นั้นสามารถพิเคราะห์ว่าเป็นแถวที่มีความนัยได้ในระดับหนึ่งเพียงเท่านั้น ไม่ได้การันตีว่าราคาจะมีการกลับเทรน ณ จุดนั้นเสมอไป

คำถามคือถ้าเกิดมีแนวทับซ้อนกันหลายแนว แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าแนวไหนเป็นแนวรับ แนวResistanceของจริง?

ตอบ สถานะคลื่นด้านในต่างหากที่เป็นองค์ประกอบหลักในการพิจารณาว่าการ Reversalของราคานั้นควรเกิดขึ้นในจุดใดเมื่อคลื่นย่อยเคลื่อนครบสถานะCycle อาทิเช่น แนวทับซ้อนฟีโบ อยู่ที่ 2 บาท แต่สถานะSub Waveที่วิ่งกระทยบที่ราคา 2 บาทนั้นยังวิ่งไม่ครบสถานะคลื่น ย่อยภายใน ลักษณะเช่นนี้แนวทับซ้อนของFibonacci ที่ 2 บาทก็ไม่สามารถเป็นแนวต้านของจริงได้

 

 

ท่านสามารถเรียนบทความเผยแพร่เทคนิค สอนเล่นหุ้น ประยุกต์ใช้ ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อนำมาวิเคราะห์กราฟหุ้น  ฟรี 100 % บนเว็ปไซต์ “มโน-เวฟ ดอท คอม” www.mano-wave.com

 

 

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : Elliott wave หนังสือ

ที่มา : http://www.mano-wave.com/p/elliott-wave-book.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น