วันพุธที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2560

ปัญหาสำหรับคนวิเคราะห์เทคนิคอลกราฟ โดยใช้ทฤษฎี อีเลียตเวฟ

 

3 ปัญหาโลกแตกของ Elliott Waveที่คนโดยมากเข้าใจผิดสูงที่สุด (มหากาพย์ แย้งกันไม่รู้จบ ภาค 1)

 

 

 

 

  1.  คลื่น 4 ห้าม เหลื่อมล้ำ คลื่น 1 ?

ไม่จริงครับ!  คลื่น 4 สามารถ เหลื่อมล้ำ  คลื่นที่ 1 ได้ หรือที่ผมมักเรียก คลื่น 4 กินหัว คลื่น 1 ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้แน่ๆ เรียกรูปแบบนี้ว่า Terminal Impulse Wave หรือ Elliott Wave หนังสือ บางเล่ม เรียกว่า Diagonal Triangle (Ending Diagonal & Leading Diagonal) ขอยังไม่อธิบายรายละเอียดการเปรียบเทียบเนื้อหาข้อมูลที่ได้รับมาจากหนังสือเรียนแต่ละเล่มนะครับเพราะว่ารายละเอียดบางส่วนยังไม่ตรงกันกันระหว่าง หนังสือ Elliott Wave แบบ สมัยเก่า และก็ ตำรา Elliott Wave แนวประยุกต์ (บทเรียนถัดๆไปผมจะมาเปรียบข้อมูลเชิงลึกกันอีกที และก็แนวทางวิธีนำไปปรับใช้จริง)

 

หากจะชี้แจง Concept ของคลื่น 4 Overlap คลื่น 1 แบบง่ายๆตามหลัก Dow Theoryให้เข้าใจก็คือ เทรนเวลานี้กำลังอ่อนกำลัง แล้วก็จะมีผลให้เกิดการกลับตัวนั่นเอง

แนวทางการนำมาใช้จริง สไตล์ “โต่ง-เต่ง” คือ Terminal Impulse Wave มักเกิดขึ้นในช่วงปลายเทรนของคลื่นที่ 5เนื่องจากว่าคลื่น 5เป็นชุดคลื่นสุดท้ายรวมทั้งต่อจากนั้นก็จะส่งสัญญาณการ Overlap (สัญญาณอ่อนกำลัง) เพื่อบ่งถึงการเตรียมความพร้อมที่จะย่อลงมาเป็น คลื่นปรับ นั่นเอง หรือคลื่น 5 ดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วเป็น Sub Wave ดังเช่นปลายคลื่น C ของ Correction Wave ก็จะเป็นสัญญาณเตือนการกลับตัวเพื่อเป็น Impulse Wave เหมือนกัน

Terminal Impulse wave หรือ Diagonal Triangle จะไม่นับได้ว่าเป็น Impulse Wave นะครับด้วยเหตุว่าองค์ประกอบภายในไม่ใช่ Impulse Wave แต่ว่าจะจัดเป็น Motive Wave

 

 

 

 

 

 

  1. อีเลียตเวฟ บอกแผนที่ ส่วน ฟีโบนันชี บอกระยะทาง ใช่หรือ?

Elliott Wave บอกแผนที่ในส่วนนี้จริงครับผม! เพราะเหตุว่าสามารถคาดเดาบอกตำแหน่ง วัฏจักร (Cycle) ของสถานะคลื่นตอนนี้ที่เราอยู่ได้ ส่วน Fibonacci บอกระยะทาง ประโยคนี้ผมเห็นว่ายังไม่ถูกต้องครับ! จำนวนต่างๆของ ฟีโบนันชี มิได้บอกระยะทางนะครับ พวกเราเองต่างหากที่ไปมุ่งหวังว่าราคาต้องวิ่งไปเท่านั้นเท่านี้ เป็นต้นว่า 161.8% หรือไม่ก็ 261.8% ฯลฯ

อ้าว! แล้วสิ่งใดกันบอกระยะทาง? ตอบ บริบทของสถานะคลื่น ปรับ ก่อนหน้าต่างหากที่บอกระยะทาง จะเกิดผลลัพธ์ใดขึ้นนั้นจะต้องเกิดเหตุก่อนเสมอ เช่นเดียวกับ เอลเลียตเวฟความยาวของคลื่นถัดไปจะเกิดขึ้นเท่าไร ต้องขึ้นกับบริบทการปรับตัวของ Correction คลื่นก่อนหน้าเสมอ ที่บอกนัยยะแฝงของตลาดว่า Impulse Wave ชุดคลื่นต่อไปได้โอกาสเคลื่อนที่ไปได้มากน้อยเพียงใด

 

แต่ว่าใช่ว่าทฤษฎีบอกบอกจุดหมายราคาเท่าไร เราก็เชื่อแบบหลับหูหลับตาโดยมิได้พิสูจน์แบบงี้ก็ผิดต้องครับ เราควรต้องเข้าไปวิเคราะห์องค์ประกอบของสถานะSub waveด้วย ว่าคลื่นที่วิ่งขึ้นนั้นมีโอกาสวิ่งครบ Cycleในจุดหมายดังที่ทฤษฎีได้เจาะจงไว้ไหม

 

 

 

 

  1. แนวทับซ้อนเป็นTargetของราคา จริงหรือ?

แนวทับทับกันของฟีโบนันชี หรือที่เรียกว่า Cluster, Confluence , หรือ Price Reversal Zone นั้นสามารถพิเคราะห์ว่าเป็นแถวที่มีความนัยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้การันตีว่าราคาจะเกิดการกลับเทรน ณ จุดนั้นเสมอ

ปริศนาคือถ้าหากมีแนวทับซ้อนกันหลายแนว แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าแนวใดเป็นแนวรับ แนวต้านของแท้?

ตอบ สถานะคลื่นภายในต่างหากที่เป็นองค์ประกอบหลักสำหรับในการพิจารณาว่าการกลับเทรนของราคานั้นควรจะเกิดขึ้นในจุดใดเมื่อคลื่นย่อยวิ่งครบสถานะCycle ดังเช่นว่า แนวทับซ้อนฟีโบ อยู่ที่ 2 บาท แต่ว่าสถานะSub Waveที่วิ่งกระทยบที่ราคา 2 บาทนั้นยังเคลื่อนไม่ครบสถานะคลื่น ย่อยข้างใน ลักษณะแบบนี้แนวทับซ้อนของFibo ที่ 2 บาทก็ไม่สามารถที่จะเป็นแนวResistanceของจริงได้

 

 

คุณสามารถศึกษาบทความเผยแพร่เทคนิค สอนเล่นหุ้น ประยุกต์ใช้ ทฤษฎี Elliott Wave เพื่อวิเคราะห์กราฟหุ้น  ฟรี 100 % บนเว็ปไซต์ “มโน-เวฟ ดอท คอม” www.mano-wave.com

 

 

 



ขอบคุณบทความจาก : http://www.mano-wave.com/p/elliott-wave-book.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น