วันอังคารที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2560

รวมอุปสรรคของTechnical Graphในการพินิจพิจารณาหุ้น ภาค 2

 

เก้าปัญหาโลกแตกของ อีเลีต ที่คนโดยมากเข้าใจผิดสูงที่สุด (มหากาพย์ โต้แย้งกันไม่สิ้นสุด ภาค 2 )

 

ถ้าเกิดต้องการศึกษาบทความภาค 1 ติดตามเว็บไซต์ สอนเล่นหุ้น เก็งกำไรฟรี ที่ มโน-เวฟ ดอท คอม ไปศึกษาเรียนรู้บทความกันต่อเลย . . .

 

 

 

 

 

 

  1. การนับคลื่น(ย่อย) คือ ความ มโน!

อ้าว! 2 ข้อก่อนหน้าพึ่งจะชี้แจงไปว่าจะต้องให้ความเอาใจใส่กับคลื่นย่อย…?

การนับคลื่นเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพนะครับลองตรึกตรองดูดีๆถึงแม้มี Key Word ขึ้นต้นด้วยคำว่า “การนับ” แต่อย่าลืมว่าการนับคลื่นในแบบท่าน อาจจะนับคลื่นไม่เสมือนในแบบของผู้อื่นก็ได้ ด้วยเหตุดังกล่าวจะนับคลื่นยังไง ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณมากที่สุดเพื่อลดความมโน คือ

 

            1.ใช้อัตราส่วนทางทฤษฎีเป็นตัวอ้างอิงสำหรับในการนับคลื่น เอเลีต ยกตัวอย่างเช่น จะนับคลื่น 2 ได้ไหมนั้นเราก็จะต้องเช็คกฎ Degree ว่าการปรับพฤติกรรมได้เข้าข้อตกลงตามทฤษฎีแล้วหรือยัง ฯลฯ

 

            2.ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณจากIndicatorช่วยนับคลื่น อีเลีต  เป็นต้นว่า จากแนวทางการนับคลื่น เอลเลียต ของผมจะใช้สัญญาณ ไดเวอร์เจนซ์ จากIndicatorตัวเคลื่อนที่ช้า รวมทั้ง ฮิดเด้น ไดเวอร์เจนซ์ จากIndicatorตัวเคลื่อนไวสำหรับ ไว้ช่วยนับคลื่น อีเลีต เพราะสัญญาณความขัดแยงต่างๆไม่ว่าจะเป็น Divergence หรือ Hidden Divergence นั้น สามารถเปรียบเทียบหรือพินิจพิจารณาผลเป็นข้อมูลเชิงปริมาณได้

 

  1. สร้างสมมติฐานเงื่อนไขสำหรับการพินิจพิจารณาที่อ้างอิงกับทฤษฎี ได้แก่ สมมติเรานับสถานะคลื่น เอเลียต ได้ 1 กรณี เราจึงควรวิเคราะห์ให้ได้ต่อว่าต่อขาน แบบอย่างดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถวิเคราะห์แยกย่อยเสริมเติมได้เป็นกรณีไหนบ้าง, จุดไหนคอนเฟริม, อิงทฤษฎีข้อไหน, และเพราะอะไร แล้วก็คำตอบที่จะเกิดขึ้นนั้น สามารถเคลื่อนไปยังแนวทางไหนได้บ้าง ฯลฯ

 

ถ้าคุณใช้ส่วนประกอบแนวทาง 3 ข้อสำหรับในการนับคลื่นดังที่กล่าวถึงมาแล้วที่ผมชี้แนะ ผลการวิเคราะห์ที่ออกมาก็จะอิงข้อมูลเชิงจำนวนมากกว่าข้อมูลเชิงประสิทธิภาพรวมทั้งส่งผลให้การนับคลื่น เอเลีต ของคุณ ลดความมโน นั่นเอง            

 

  1. ใช่หรือ! Divergenceหมายถึงคลื่น เอลเลียต คลื่นที่ 5

ส่วนมากแล้วคลื่นที่ 5 มักกำเนิดสัญญาณ Divergence แม้กระนั้นใช่ว่าเกิดสัญญาณ Divergence ขึ้นแล้วควรจะเป็นคลื่น 5 เสมออย่ารู้ผิดครับ

 เหตุเพราะรูปแบบ Correction Wave ที่ทำ New High อย่างกลุ่มของ Strong B ในแบบ Flat ต่างก็กำเนิด Divergence ขึ้นร่วมกันทั้งนั้น ซึ่งไม่ใช่สถานะคลื่น เอลเลียต คลื่นที่ 5

 

การใช้สัญญาณอินดิเคเตอร์เพื่อช่วยในกาวิเคราะห์สถานะคลื่นเป็นเพียงแค่เทคนิคมุมมองที่นำมาปรับใช้ในการนับคลื่นให้ง่าย แล้วก็รวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ว่าไม่ได้การันตีว่าสัญญาณจากIndicatorต่างๆจะถูกต้องเสมอไป เราจำต้องใช้กฎแล้วก็อัตราส่วนตามแนวคิดในการอ้างอิงการวิเคราะห์เป็นหลัก

 

  1. Elliott Wave สอน (ไม่!) จำเป็นจะต้องเริ่มนับ 12345

บ่อยพวกเราคุ้นชินที่จะเริ่มนับคลื่น  12345 แบบงี้เสมอ หารู้ไม่หุ้นบางตัวที่อยู่ในตลาดบางทีอาจไม่จำเป็นที่จะต้องเริ่มนับอย่างนี้ก็ได้ หากองค์ประกอบของกราฟหุ้นผิดกฎของ Impulse Wave พวกเราจำต้องเปลี่ยนแปลงการนับคลื่น Elliott Wave ในลักษณะดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว เปลี่ยนแปลงมาเป็น Correction Wave แทน    

 

  1. ระดับ ฟีโบ มิได้มีไว้แท่งราคาไปสัมผัสแล้ว “มโน” ว่านั่นคือจุดหมาย

Level Fibonacciต่างๆมีไว้เพื่อแบ่งขอบเขตอัตราส่วนของชุดคลื่น อีเลีต เพื่อพินิจพิจารณาว่ารูปร่างการพักตัวหรือรูปร่างเป้าหมายที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในอัตราส่วนตามแนวความคิดเท่าไหร่ เพื่อจะพินิจพิจารณาหาวิถีทางความน่าจะเป็นของคำตอบที่จะเกิดขึ้น ว่าสามารถเกิดขึ้นไปยังแนวทางใดได้บ้าง แต่ว่าไม่ได้มีไว้เพื่อให้ราคามาทดสอบสัมผัส Level ฟีโบต่างๆและก็ “มั่ว” ว่านั่นเป็นTarget price

 

  1. เอลเลียต นับอย่างไรก็ได้ 10คนนับ ก็ได้ 10 แบบ

ไม่จริงนะครับ แนวความคิดคลื่น Elliott Wave มีกฎที่ต้องปฏิบัติอัตราส่วนที่ระบุเป็นข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อเป็นกรอบวิธีการพินิจพิจารณาที่แจ้งชัด ดังนั้นการนับคลื่นของแต่ละคนกับผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน จะต้องมีผลสรุปต้นแบบโครงสร้างการนับคลื่นที่คล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่จะต่างกันเป็นมุมมองของข้อสมมติฐานข้อจำกัดในกรณีอื่นๆเสริมเติม ที่จึงควรวิเคราะห์สมมติฐานการเคลื่อนที่ของราคาที่อิงกับแนวความคิดให้มากมายแบบมากขึ้นเรื่อยๆ จุดนี้ขึ้นกับประสบการณ์ของผู้วิเคราะห์ว่าสามารถแยกย่อยข้อสมมติฐานอื่นๆเพิ่มเติมอีกได้มากน้อยแค่ไหน

 

  1. เรียน Elliott wave ยากที่จะศึกษา วิเคราะห์แบบง่ายๆได้กำไร ก็พอ!

ถูกครับผมเป้าหมายของการเทรดเป็น กำไร เทรดแบบง่ายๆแล้วได้เงิน ไม่ผิดครับผม แต่เทรดแล้วทราบเหตุและผลของการได้ตังค์ต่างหากที่สำคัญกว่า เพราะว่าการเทรดอย่างมีเหตุและก็ผลรองรับนั้น มันสามารถปฏิบัติทำซ้ำได้อย่างมีระบบ ซึ่งต่างจากการเทรดแบบง่ายๆด้วยวิธีการวัดดวง…เงินทองเป็นของหายากจะนำมาพนันด้วยแนวทางคิดแบบง่ายๆแบบงี้นี้คุ้มแล้วหรือ?

อีเลียต เป็นทฤษฎีที่ยากไม่มีผู้ใดที่อยากจะเสียเวลาศึกษาหรอก แม้กระนั้นด้วยปัญหาการเทรดแบบเดิมๆที่ไม่อาจจะตอบปัญหา ให้เหตุและผลที่เพียงพอต่อการวิเคราะห์ก็เลยเป็นต้นเหตุครั้งทำให้นักลงทุนบางกรุ๊ปเริ่มเข้ามาเรียนรู้ทฤษฎี เอเลีต อย่างเป็นจริงเป็นจัง

 

ฝากติดตามเว็บ สอนเล่นหุ้นออนไลน์" href="http://www.mano-wave.com/p/youtube-channel-httpsgoo.html">สอนเล่นหุ้นออนไลน์ และ สอน Elliott Wave สำหรับพินิจพิจารณากราฟหุ้น ทำความเข้าใจได้ฟรี ด้วยตัวเองฟรี ที่ "มโน - เวฟ ดอท คอม"

http://www.mano-wave.com

 

 



ที่มา : http://www.mano-wave.com/p/youtube-channel-httpsgoo.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น