วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2560

รวมปมปัญหาของกราฟหุ้นในการวิเคราะห์หุ้น ตอน 2

 

9คำถามโลกแตกของ เอเลียต ที่คนส่วนมากเข้าใจผิดเยอะที่สุด (มหากาพย์ โต้แย้งกันไม่รู้จบ ตอน 2 )

 

แม้อยากศึกษาบทความตอน 1 ติดตามเว็บไซต์ สอนเล่นหุ้น เก็งกำไรฟรี ที่ มโน-เวฟ ดอท คอม ไปทำความเข้าใจกับบทความกันต่อเลย . . .

 

 

 

 

 

 

  1. การนับคลื่น(ย่อย) คือ ความ มโน!

อ้าว! 2 ข้อก่อนหน้าพึ่งจะอธิบายไปว่าต้องให้ความสำคัญกับคลื่นย่อย…?

การนับคลื่นหมายถึงข้อมูลเชิงคุณภาพนะครับลองพิเคราะห์ดูดีๆถึงมี Key Word เริ่มต้นด้วยคำว่า “การนับ” แม้กระนั้นอย่าลืมว่าการนับคลื่นในแบบท่าน บางครั้งก็อาจจะนับคลื่นไม่เหมือนในแบบของผู้อื่นก็ได้ เพราะฉะนั้นจะนับคลื่นยังไง ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณมากที่สุดเพื่อลดความมโน ดังนี้

 

            1.ใช้อัตราส่วนทางด้านทฤษฎีเป็นตัวอ้างอิงในการนับคลื่น เอลเลียต ตัวอย่างเช่น จะนับคลื่น 2 ได้หรือเปล่านั้นพวกเราก็จำต้องเช็คกฎ Degree ว่าการปรับตัวได้เข้าข้อตกลงตามแนวความคิดแล้วหรือยัง ฯลฯ

 

            2.ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณจากอินดิเคเตอร์ช่วยนับคลื่น Elliott Wave  ยกตัวอย่างเช่น จากแนวทางการนับคลื่น เอเลียต ของผมจะใช้สัญญาณ Divergence จากอินดิเคเตอร์ตัวเคลื่อนที่ช้า และ Hidden Divergence จากอินดิเคเตอร์ตัวเคลื่อนไวสำหรับ ไว้ช่วยนับคลื่น อีเลีต ด้วยเหตุว่าสัญญาณความขัดแยงต่างๆไม่ว่าจะเป็น ไดเวอร์เจนซ์ หรือ ฮิดเด้นไดเวอร์เจนซ์ นั้น สามารถเทียบหรือพินิจพิจารณาผลเป็นข้อมูลเชิงปริมาณได้

 

  1. สร้างสมมติฐานเงื่อนไขสำหรับในการพินิจพิจารณาที่อิงกับทฤษฎี อย่างเช่น สมมติพวกเรานับสถานะคลื่น อีเลียต ได้ 1 Cuase พวกเราจำเป็นต้องพินิจพิจารณาให้ได้ว่ากล่าว ต้นแบบดังที่กล่าวผ่านมาแล้วสามารถพินิจพิจารณาแบ่งย่อยเพิ่มอีกได้เป็นกรณีไหนบ้าง, จุดไหนคอนเฟริม, อิงแนวความคิดข้อไหน, และทำไม รวมถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นนั้น สามารถเคลื่อนไปยังทิศทางไหนได้บ้าง เป็นต้น

 

แม้คุณใช้ส่วนประกอบเคล็ดวิธี 3 ข้อสำหรับการนับคลื่นดังที่กล่าวมาแล้วที่ผมชี้แนะ ผลที่เกิดจากการวิเคราะห์ที่ออกมาก็จะอิงข้อมูลเชิงปริมาณมากกว่าข้อมูลเชิงประสิทธิภาพและทำให้การนับคลื่น เอลเลียต ของคุณ ลดความมโน นั่นเอง            

 

  1. จริงหรือ! ไดเวอร์เจนซ์เป็นคลื่น อีเลีต คลื่นที่ 5

ส่วนมากแล้วคลื่นที่ 5 มักกำเนิดสัญญาณ Divergence แต่ใช่ว่ากำเนิดสัญญาณ Divergence ขึ้นแล้วต้องเป็นคลื่น 5 เสมออย่ารู้ผิดครับผม

 เพราะเหตุว่าแบบ คลื่นปรับ ที่ทำ New High อย่างกรุ๊ปของ Strong B ในแบบอย่าง Flat ต่างก็เกิด ไดเวอร์เจนซ์ ขึ้นด้วยกันทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่สถานะคลื่น อีเลีต คลื่นที่ 5

 

การใช้สัญญาณIndicatorเพื่อช่วยในกาพิจารณาสถานะคลื่นเป็นเพียงแนวทางมุมมองที่นำมาปรับใช้ในการนับคลื่นให้ง่าย แล้วก็เร็วขึ้นเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นไม่ได้การันตีว่าสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ต่างๆจะถูกเสมอไป เราจำเป็นจะต้องใช้กฎและอัตราส่วนตามแนวคิดสำหรับเพื่อการอ้างอิงการวิเคราะห์เป็นหลัก

 

  1. Elliott Wave สอน (ไม่!) จำเป็นต้องเริ่มนับ 12345

บ่อยครั้งพวกเราคุ้นชินที่จะเริ่มนับคลื่น  12345 อย่างนี้เสมอ หารู้ไม่หุ้นบางตัวที่อยู่ในตลาดบางทีอาจไม่มีความจำเป็นที่ต้องเริ่มนับอย่างงี้ก็ได้ ถ้าเกิดองค์ประกอบของกราฟหุ้นผิดกฎของ Impulse Wave พวกเราจำต้องเปลี่ยนการนับคลื่น เอลเลียต ในลักษณะดังที่กล่าวถึงแล้ว แปลงมาเป็น คลื่นปรับ แทน    

 

  1. อัตราส่วน ฟีโบ มิได้มีไว้แท่งราคาไปสัมผัสแล้ว “มโน” ว่านั่นคือTP

อัตราส่วน ฟิโบนันชีต่างๆมีไว้เพื่อแบ่งขอบเขตอัตราส่วนของชุดคลื่น เอเลียต เพื่อพินิจพิจารณาว่ารูปทรงการพักตัวหรือรูปร่างแผนการที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในอัตราส่วนตามแนวคิดเท่าไหร่ เพื่อจะวิเคราะห์หาทางความน่าจะเป็นของผลสรุปที่จะเกิดขึ้น ว่าสามารถเกิดขึ้นไปยังแนวทางใดได้บ้าง แม้กระนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อให้ราคามาทดลองสัมผัส Level ฟีโบต่างๆและก็ “มั่ว” ว่านั่นเป็นเป้าหมาย

 

  1. อีเลีต นับอย่างไรก็ได้ 10คนนับ ก็ได้ 10 แบบ

ไม่จริงครับ ทฤษฎีคลื่น Elliott Wave มีกฎข้อบังคับอัตราส่วนที่กำหนดเป็นข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อเป็นกรอบกรรมวิธีพินิจพิจารณาที่กระจ่าง ด้วยเหตุนี้การนับคลื่นของแต่ละคนกับผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน ควรจะมีผลแบบอย่างองค์ประกอบการนับคลื่นที่คล้ายกัน แต่ว่าสิ่งที่จะไม่เหมือนกันเป็นมุมมองของข้อสมมติฐานข้อแม้ในกรณีอื่นๆเพิ่ม ที่ควรต้องพินิจพิจารณาข้อสมมติการเคลื่อนที่ของราคาที่อิงกับทฤษฎีให้นานาประการแบบเพิ่มมากขึ้น จุดนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้วิเคราะห์ว่าสามารถแบ่งย่อยข้อสมมติฐานอื่นๆเสริมเติมได้มากน้อยเพียงใด

 

  1. เรียน Elliott wave ยากที่จะศึกษา วิเคราะห์แบบง่ายๆได้ตังค์ ก็เพียงพอ!

ถูกขอรับวัตถุประสงค์ของการเทรดเป็น กำไร เทรดแบบง่ายๆแล้วได้เงิน ไม่ผิดครับผม แม้กระนั้นเทรดแล้วรู้เหตุและก็ผลการได้ตังค์ต่างหากที่สำคัญกว่า เพราะการเทรดอย่างมีเหตุรวมทั้งผลรองรับนั้น มันสามารถปฏิบัติทำซ้ำได้อย่างมีระบบ ซึ่งต่างจากการเทรดแบบง่ายๆด้วยแนวทางวัดดวง…ทรัพย์สินเป็นของหายากจะนำมาพนันด้วยแนวทางคิดแบบง่ายๆอย่างนี้นี้คุ้มแล้วหรือ?

อีเลีต เป็นทฤษฎีที่ยากไม่มีผู้ใดที่อยากจะเสียเวล่ำเวลาเรียนรู้หรอก แม้กระนั้นด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเทรดแบบเดิมๆที่ไม่อาจจะตอบปัญหา ให้เหตุและก็ผลที่พอเพียงต่อการวิเคราะห์จึงเป็นต้นเหตุคราวทำให้นักลงทุนบางกรุ๊ปเริ่มเข้ามาเรียนรู้ทฤษฎี เอเลียต อย่างจริงจัง

 

ฝากติดตามเว็บไซต์ สอนเล่นหุ้นออนไลน์ และ สอน Elliott Wave สำหรับพินิจพิจารณากราฟหุ้น ศึกษาได้Free ด้วยตัวเองฟรี ที่ "มโน - เวฟ ดอท คอม"

http://www.mano-wave.com

 

 



เครดิต : http://www.mano-wave.com/p/youtube-channel-httpsgoo.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น