วันอาทิตย์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2560

รวมปริศนาของTechnical Graphในการพินิจพิจารณาหุ้น ตอน 2

 

เก้าคำถามโลกแตกของ เอลเลียต ที่คนจำนวนมากเข้าใจผิดเยอะที่สุด (มหากาพย์ โต้เถียงกันไม่รู้จบ ตอน 2 )

 

หากต้องการเรียนรู้บทความภาค 1 ติดตามเว็บ สอนเล่นหุ้น เก็งกำไรฟรี ที่ มโน-เวฟ ดอท คอม ไปศึกษาเรียนรู้บทความกันต่อเลย . . .

 

 

 

 

 

 

  1. การนับคลื่น(ย่อย) คือ ความ มโน!

อ้าว! 2 ข้อก่อนหน้าพึ่งจะชี้แจงไปว่าจำต้องให้ความเอาใจใส่กับคลื่นย่อย…?

การนับคลื่นเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพครับผมลองพิเคราะห์ดูดีๆหากแม้มี Key Word เริ่มด้วยคำว่า “การนับ” แต่อย่าลืมว่าการนับคลื่นในแบบท่าน อาจจะนับคลื่นไม่เสมือนในแบบของคนอื่นก็ได้ เพราะฉะนั้นจะนับคลื่นยังไง ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณมากที่สุดเพื่อลดความมโน ดังนี้

 

            1.ใช้อัตราส่วนทางทฤษฎีเป็นตัวอ้างอิงสำหรับในการนับคลื่น เอเลีต อย่างเช่น จะนับคลื่น 2 ได้หรือไม่นั้นเราก็จะต้องเช็คกฎ Degree ว่าการปรับพฤติกรรมได้เข้าข้อตกลงตามแนวความคิดแล้วหรือยัง เป็นต้น

 

            2.ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณจากอินดิเคเตอร์ช่วยนับคลื่น Elliott Wave  ดังเช่นว่า จากเทคนิคการนับคลื่น เอลเลียต ของผมจะใช้สัญญาณ ไดเวอร์เจนซ์ จากIndicatorตัวเคลื่อนที่ช้า แล้วก็ Divergence แฝง จากIndicatorตัวเคลื่อนไวสำหรับ ไว้ช่วยนับคลื่น Elliott Wave เนื่องมาจากสัญญาณความขัดแยงต่างๆไม่ว่าจะเป็น Divergence หรือ Hidden Divergence นั้น สามารถเปรียบเทียบหรือวิเคราะห์ผลเป็นข้อมูลเชิงปริมาณได้

 

  1. สร้างสมมติฐานเงื่อนไขสำหรับในการวิเคราะห์ที่อิงกับทฤษฎี ดังเช่นว่า สมมุติเรานับสถานะคลื่น อีเลียต ได้ 1 กรณี พวกเราจำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ให้ได้ต่อว่าต่อขาน แบบอย่างดังกล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถพินิจพิจารณาแบ่งย่อยเสริมเติมได้เป็นกรณีไหนบ้าง, จุดไหนคอนเฟริม, อิงแนวคิดข้อไหน, แล้วก็ทำไม และก็ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นนั้น สามารถเคลื่อนไปยังแนวทางไหนได้บ้าง ฯลฯ

 

ถ้าเกิดคุณใช้องค์ประกอบเคล็ดลับ 3 ข้อในการนับคลื่นดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นที่ผมแนะนำ ผลที่เกิดจากการวิเคราะห์ที่ออกมาก็จะอิงข้อมูลเชิงจำนวนมากกว่าข้อมูลเชิงประสิทธิภาพแล้วก็ทำให้การนับคลื่น เอลเลียต ของคุณ ลดความมโน นั่นเอง            

 

  1. จริงหรือ! Divergenceเป็นคลื่น เอเลียต คลื่นที่ 5

ส่วนใหญ่แล้วคลื่นที่ 5 มักเกิดสัญญาณ ไดเวอร์เจนซ์ แม้กระนั้นใช่ว่าเกิดสัญญาณ Divergence ขึ้นแล้วจะต้องเป็นคลื่น 5 เสมออย่าเข้าใจผิดครับ

 เพราะต้นแบบ Correction Wave ที่ทำ New High อย่างกรุ๊ปของ Strong B ในแบบ Flat ต่างก็กำเนิด Divergence ขึ้นด้วยกันทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่สถานะคลื่น เอเลีต คลื่นที่ 5

 

การใช้สัญญาณIndicatorเพื่อช่วยในกาวิเคราะห์สถานะคลื่นเป็นเพียงแต่เทคนิคมุมมองที่เอามาประยุกต์สำหรับเพื่อการนับคลื่นให้ง่าย แล้วก็รวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ได้การันตีว่าสัญญาณจากIndicatorต่างๆจะถูกต้องเสมอ พวกเราจึงควรใช้กฎและอัตราส่วนตามแนวคิดสำหรับเพื่อการอ้างอิงการวิเคราะห์เป็นหลัก

 

  1. Elliott Wave สอน (ไม่!) จึงควรเริ่มนับ 12345

บ่อยพวกเราเคยชินที่จะเริ่มต้นนับคลื่น  12345 อย่างงี้เสมอ หารู้ไม่หุ้นบางตัวที่อยู่ในตลาดบางทีอาจไม่มีความจำเป็นต้องเริ่มนับแบบงี้ก็ได้ แม้องค์ประกอบของกราฟหุ้นผิดกฎของ Impulse Wave พวกเราจำเป็นที่จะต้องแปลงการนับคลื่น เอลเลียต ในลักษณะดังที่กล่าวมาแล้ว เปลี่ยนมาเป็น Correction Wave แทน    

 

  1. ระดับ Fibo ไม่ได้มีไว้ให้ราคาไปสัมผัสแล้ว “มั่ว” ว่านั่นคือเป้าหมาย

ระดับ Fibonacciต่างๆมีไว้เพื่อแบ่งขอบเขตอัตราส่วนของชุดคลื่น เอลเลียต เพื่อวิเคราะห์ว่าสัดส่วนการพักตัวหรือสัดส่วนเป้าหมายที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในอัตราส่วนตามแนวความคิดเท่าไร เพื่อจะพินิจพิจารณาหาทางความเป็นไปได้ของผลที่จะเกิดขึ้น ว่าสามารถเกิดขึ้นไปยังแนวทางใดได้บ้าง แม้กระนั้นมิได้มีไว้เพื่อราคามาทดสอบสัมผัส Level ฟีโบต่างๆและ “มโน” ว่านั่นคือเป้าหมาย

 

  1. อีเลีต นับอย่างไรก็ได้ 10คนนับ ก็ได้ 10 แบบ

ไม่จริงครับผม ทฤษฎีคลื่น เอเลียต มีกฎอัตราส่วนที่เจาะจงเป็นข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อเป็นกรอบแนวทางการพินิจพิจารณาที่กระจ่างแจ้ง ฉะนั้นการนับคลื่นของแต่ละบุคคลกับผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน ควรจะมีคำตอบแบบโครงสร้างการนับคลื่นที่คล้ายคลึงกัน แต่ว่าสิ่งที่จะแตกต่างเป็นมุมมองของข้อสมมติฐานข้อจำกัดในกรณีอื่นๆเสริมเติม ที่จำเป็นจะต้องวิเคราะห์สมมติฐานการเคลื่อนที่ของราคาที่อิงกับแนวคิดให้มากมายต้นแบบมากเพิ่มขึ้น จุดนี้ขึ้นกับประสบการณ์ของผู้พินิจพิจารณาว่าสามารถแบ่งย่อยข้อสมมติฐานอื่นๆเพิ่มเติมอีกได้มากน้อยแค่ไหน

 

  1. เรียน Elliott wave ยากที่จะทำความเข้าใจ วิเคราะห์แบบง่ายๆได้ตังค์ ก็พอเพียง!

ถูกครับผมจุดหมายของการเทรดเป็น ผลกำไร เทรดแบบง่ายๆแล้วได้ตังค์ ไม่ผิดครับผม แต่เทรดแล้วทราบเหตุแล้วก็ผลของการได้ตังค์ต่างหากที่สำคัญกว่า เนื่องจากว่าการเทรดอย่างมีเหตุและก็ผลรองรับนั้น มันสามารถปฏิบัติทำใหม่ได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งแตกต่างจากการเทรดแบบง่ายๆด้วยแนวทางวัดดวง…เงินทองเป็นของหายากจะเอามาพนันด้วยวิธีการคิดแบบง่ายๆแบบงี้นี้คุ้มแล้วหรือ?

อีเลียต เป็นแนวคิดที่ยากไม่มีใครที่ต้องการจะเสียเวล่ำเวลาศึกษาหรอก แม้กระนั้นด้วยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเทรดแบบเดิมๆที่ไม่สามารถที่จะตอบปัญหา ให้เหตุและก็ผลที่เพียงพอต่อการวิเคราะห์ก็เลยเป็นต้นเหตุหนทำให้นักลงทุนบางกรุ๊ปเริ่มเข้ามาเรียนแนวคิด เอเลีต อย่างเป็นจริงเป็นจัง

 

ฝากติดตามเว็บ สอนเล่นหุ้นออนไลน์ และ สอน Elliott Wave สำหรับวิเคราะห์กราฟหุ้น ศึกษาได้ฟรี ด้วยตัวเองฟรี ที่ "มโน - เวฟ ดอท คอม"

http://www.mano-wave.com

 

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เรียน Elliott Wave

ที่มา : http://www.mano-wave.com/p/youtube-channel-httpsgoo.html

วันเสาร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2560

รวมปัญหาของTechnical Graphในการวิเคราะห์หุ้น ตอน 2

 

9คำถามโลกแตกของ เอลเลียต ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเยอะที่สุด (มหากาพย์ โต้เถียงกันไม่รู้จบ ตอน 2 )

 

หากอยากเรียนบทความตอน 1 ติดตามเว็บ สอนเล่นหุ้น เก็งกำไรฟรี ที่ มโน-เวฟ ดอท คอม ไปทำความเข้าใจกับบทความกันต่อเลย . . .

 

 

 

 

 

 

  1. การนับคลื่น(ย่อย) คือ ความ มโน!

อ้าว! 2 ข้อก่อนหน้าพึ่งจะชี้แจงไปว่าจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับคลื่นย่อย…?

การนับคลื่น คือ ข้อมูลเชิงคุณภาพครับผมลองตรึกตรองดูดีๆถึงมี Key Word เริ่มต้นด้วยคำว่า “การนับ” แต่อย่าลืมว่าการนับคลื่นในแบบคุณ บางทีก็อาจจะนับคลื่นไม่เหมือนในแบบของท่านอื่นก็ได้ โดยเหตุนี้จะนับคลื่นเช่นไร ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณมากที่สุดเพื่อลดความมโน คือ

 

            1.ใช้อัตราส่วนทางทฤษฎีเป็นตัวอ้างอิงในการนับคลื่น อีเลียต อาทิเช่น จะนับคลื่น 2 ได้หรือไม่นั้นพวกเราก็จำต้องเช็คกฎ Degree ว่าการปรับตัวได้เข้าเงื่อนไขตามทฤษฎีแล้วหรือยัง ฯลฯ

 

            2.ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณจากอินดิเคเตอร์ช่วยนับคลื่น อีเลียต  เช่น จากแนวทางการนับคลื่น เอเลีต ของผมจะใช้สัญญาณ ไดเวอร์เจนซ์ จากIndicatorตัวเคลื่อนที่ช้า และก็ ฮิดเด้น ไดเวอร์เจนซ์ จากIndicatorตัวเคลื่อนไวสำหรับ ไว้ช่วยนับคลื่น Elliott Wave เพราะเหตุว่าสัญญาณความขัดแยงต่างๆไม่ว่าจะเป็น Divergence หรือ Hidden Divergence นั้น สามารถเทียบหรือพินิจพิจารณาผลเป็นข้อมูลเชิงปริมาณได้

 

  1. สร้างข้อสมมติข้อแม้ในการพินิจพิจารณาที่อ้างอิงกับทฤษฎี ตัวอย่างเช่น สมมุติพวกเรานับสถานะคลื่น เอเลียต ได้ 1 เคส พวกเราจำเป็นจะต้องพินิจพิจารณาให้ได้ว่ากล่าว แบบอย่างดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วสามารถวิเคราะห์แยกย่อยเพิ่มอีกได้เป็นกรณีไหนบ้าง, จุดไหนคอนเฟริม, อิงแนวคิดข้อไหน, และก็เพราะเหตุใด รวมทั้งผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นนั้น สามารถเคลื่อนที่ไปยังทิศทางไหนได้บ้าง เป็นต้น

 

แม้คุณใช้ส่วนประกอบเคล็ดวิธี 3 ข้อสำหรับในการนับคลื่นดังกล่าวข้างต้นที่ผมแนะนำ ผลการวิเคราะห์ที่ออกมาก็จะอิงข้อมูลเชิงปริมาณมากกว่าข้อมูลเชิงคุณภาพแล้วก็นำมาซึ่งการทำให้การนับคลื่น เอเลียต ของคุณ ลดความมโน นั่นเอง            

 

  1. ใช่หรือ! Divergenceเป็นคลื่น เอลเลียต คลื่นที่ 5

ส่วนใหญ่แล้วคลื่นที่ 5 มักกำเนิดสัญญาณ ไดเวอร์เจนซ์ แม้กระนั้นใช่ว่าเกิดสัญญาณ Divergence ขึ้นแล้วต้องเป็นคลื่น 5 เสมออย่ารู้ผิดครับ

 เพราะว่าต้นแบบ Correction Wave ที่ทำ New High อย่างกลุ่มของ Strong B ในรูปแบบ Flat ต่างก็กำเนิด ไดเวอร์เจนซ์ ขึ้นด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งไม่ใช่สถานะคลื่น เอเลียต คลื่นที่ 5

 

การใช้สัญญาณIndicatorเพื่อช่วยในกาวิเคราะห์สถานะคลื่นเป็นเพียงเคล็ดลับมุมมองที่เอามาปรับใช้สำหรับการนับคลื่นให้ง่าย และเร็วทันใจขึ้นเพียงแค่นั้น แต่ไม่ได้การันตีว่าสัญญาณจากIndicatorต่างๆจะถูกต้องเสมอ เราจึงควรใช้กฎแล้วก็อัตราส่วนตามแนวความคิดสำหรับในการอ้างอิงการวิเคราะห์เป็นหลัก

 

  1. Elliott Wave สอน (ไม่!) จำเป็นต้องเริ่มนับ 12345

หลายคราวเราคุ้นชินที่จะเริ่มต้นนับคลื่น  12345 อย่างงี้เสมอ หารู้ไม่หุ้นบางตัวที่อยู่ในตลาดอาจไม่จำเป็นที่ต้องเริ่มนับอย่างงี้ก็ได้ แม้โครงสร้างของกราฟหุ้นผิดกฎของ Impulse Wave เราจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนการนับคลื่น อีเลียต ในลักษณะดังที่กล่าวมาแล้ว เปลี่ยนมาเป็น Correction Wave แทน    

 

  1. Level ฟิโบนันชี ไม่ได้มีไว้แท่งราคาไปสัมผัสแล้ว “มั่ว” ว่านั่นคือTarget Price

ระดับ Fibonacciต่างๆมีไว้เพื่อแบ่งขอบเขตอัตราส่วนของชุดคลื่น อีเลียต เพื่อพินิจพิจารณาว่าสัดส่วนการพักตัวหรือสัดส่วนเป้าหมายที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในอัตราส่วนตามแนวความคิดมากแค่ไหน เพื่อจะวิเคราะห์หาวิถีทางความน่าจะเป็นของผลสรุปที่จะเกิดขึ้น ว่าสามารถเกิดขึ้นไปยังทิศทางใดได้บ้าง แม้กระนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อราคามาทดสอบสัมผัส Level ฟีโบต่างๆและก็ “มั่ว” ว่านั่นคือTarget price

 

  1. อีเลีต นับอย่างไรก็ได้ 10คนนับ ก็ได้ 10 แบบ

ไม่จริงครับผม ทฤษฎีคลื่น Elliott Wave มีกฎที่ต้องปฏิบัติตามอัตราส่วนที่ระบุเป็นข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อเป็นกรอบกรรมวิธีการวิเคราะห์ที่แจ่มแจ้ง ด้วยเหตุนั้นการนับคลื่นของแต่ละคนกับสินค้าชนิดเดียวกัน ต้องมีผลลัพธ์ต้นแบบโครงสร้างการนับคลื่นที่คล้ายคลึงกัน แม้กระนั้นสิ่งที่จะต่างกันคือมุมมองของข้อสมมติฐานเงื่อนไขในกรณีอื่นๆเพิ่มเติมอีก ที่จึงควรวิเคราะห์ข้อสมมติการเคลื่อนที่ของราคาที่อิงกับแนวความคิดให้มากมายแบบอย่างเยอะขึ้น จุดนี้ขึ้นกับประสบการณ์ของผู้พินิจพิจารณาว่าสามารถแยกย่อยข้อสมมติฐานอื่นๆเพิ่มเติมได้มากน้อยแค่ไหน

 

  1. เรียน Elliott wave ยากที่จะศึกษา วิเคราะห์แบบง่ายๆได้เงิน ก็เพียงพอ!

ถูกต้องครับวัตถุประสงค์ของการเทรดเป็น ผลกำไร เทรดแบบง่ายๆแล้วได้ตังค์ ไม่ผิดครับผม แต่ว่าเทรดแล้วรู้เหตุแล้วก็ผลการได้ตังค์ต่างหากที่สำคัญกว่า เพราะว่าการเทรดอย่างมีเหตุรวมทั้งผลรองรับนั้น มันสามารถปฏิบัติทำใหม่ได้อย่างมีระบบ ซึ่งต่างจากการเทรดแบบง่ายๆด้วยแนวทางวัดดวง…ทรัพย์สินเป็นของหายากจะเอามาพนันด้วยวิธีการคิดแบบง่ายๆอย่างนี้นี้คุ้มแล้วหรือ?

อีเลีต เป็นแนวคิดที่ยากไม่มีใครที่อยากจะเสียเวลาทำความเข้าใจหรอก แต่ด้วยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเทรดแบบเดิมๆที่ไม่สามารถตอบโจทย์ ให้เหตุและก็ผลที่พอเพียงต่อการวิเคราะห์จึงเป็นสาเหตุทีทำให้นักลงทุนบางกรุ๊ปเริ่มเข้ามาเล่าเรียนแนวคิด เอเลีต อย่างจริงจัง

 

ฝากติดตามเว็บไซต์ สอนเล่นหุ้นออนไลน์ และ สอน Elliott Wave สำหรับพินิจพิจารณากราฟหุ้น ศึกษาได้ฟรี ด้วยตัวเองฟรี ที่ "มโน - เวฟ ดอท คอม"

http://www.mano-wave.com

 

 



เครดิต : http://www.mano-wave.com/p/vdo-elliott-wave-elliott-wave.html

วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560

รวมคำถามของกราฟเทคนิคในการพินิจพิจารณาหุ้น ตอน 2

 

9ปริศนาโลกแตกของ เอลเลียต ที่คนโดยมากเข้าใจผิดมากที่สุด (มหากาพย์ โต้เถียงกันไม่รู้จบ ภาค 2 )

 

หากอยากเรียนบทความภาค 1 ติดตามเว็บ สอนเล่นหุ้น เก็งกำไรฟรี ที่ มโน-เวฟ ดอท คอม ไปศึกษาเรียนรู้บทความกันต่อเลย . . .

 

 

 

 

 

 

  1. การนับคลื่น(ย่อย) คือ ความ มโน!

อ้าว! 2 ข้อก่อนหน้าเพิ่งอธิบายไปว่าจำต้องให้ความเอาใจใส่กับคลื่นย่อย…?

การนับคลื่นหมายถึงข้อมูลเชิงคุณภาพนะครับลองพินิจดูดีๆถึงแม้มี Key Word เริ่มต้นด้วยคำว่า “การนับ” แม้กระนั้นอย่าลืมว่าการนับคลื่นในแบบท่าน บางครั้งก็อาจจะนับคลื่นไม่เสมือนในแบบของท่านอื่นก็ได้ ด้วยเหตุดังกล่าวจะนับคลื่นยังไง ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณมากที่สุดเพื่อลดความมโน ดังนี้

 

            1.ใช้อัตราส่วนทางทฤษฎีเป็นตัวอ้างอิงสำหรับในการนับคลื่น Elliott Wave ดังเช่นว่า จะนับคลื่น 2 ได้หรือเปล่านั้นเราก็จำต้องเช็คกฎ Degree ว่าการปรับนิสัยได้เข้าข้อแม้ตามทฤษฎีแล้วหรือยัง เป็นต้น

 

            2.ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณจากIndicatorช่วยนับคลื่น เอเลีต  เช่น จากเทคนิคการนับคลื่น Elliott Wave ของผมจะใช้สัญญาณ Divergence จากIndicatorตัวเคลื่อนที่ช้า แล้วก็ Divergence แฝง จากIndicatorตัวเคลื่อนไวสำหรับ ไว้ช่วยนับคลื่น อีเลียต เพราะเหตุว่าสัญญาณความขัดแยงต่างๆไม่ว่าจะเป็น ไดเวอร์เจนซ์ หรือ ฮิดเด้นไดเวอร์เจนซ์ นั้น สามารถเปรียบเทียบหรือพินิจพิจารณาผลเป็นข้อมูลเชิงปริมาณได้

 

  1. สร้างข้อสมมติข้อจำกัดในการพินิจพิจารณาที่อิงกับทฤษฎี เช่น สมมุติพวกเรานับสถานะคลื่น เอลเลียต ได้ 1 แบบ เราจำเป็นต้องพินิจพิจารณาให้ได้ว่ากล่าว ต้นแบบดังที่ได้กล่าวมาแล้วสามารถวิเคราะห์แยกย่อยเสริมเติมได้เป็นกรณีไหนบ้าง, จุดไหนยืนยัน, อิงแนวคิดข้อไหน, และก็เพราะเหตุใด และผลที่จะเกิดขึ้นนั้น สามารถเคลื่อนไปยังแนวทางไหนได้บ้าง ฯลฯ

 

แม้คุณใช้องค์ประกอบแนวทาง 3 ข้อสำหรับในการนับคลื่นดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นที่ผมเสนอแนะ ผลจากการศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยที่ออกมาก็จะอิงข้อมูลเชิงปริมาณมากกว่าข้อมูลเชิงประสิทธิภาพและก็นำมาซึ่งการทำให้การนับคลื่น อีเลีต ของคุณ ลดความมโน นั่นเอง            

 

  1. ใช่หรือ! Divergenceหมายถึงคลื่น เอเลียต คลื่นที่ 5

ส่วนมากแล้วคลื่นที่ 5 มักกำเนิดสัญญาณ Divergence แต่ใช่ว่ากำเนิดสัญญาณ Divergence ขึ้นแล้วควรเป็นคลื่น 5 เสมออย่ารู้ผิดนะครับ

 เนื่องจากแบบ คลื่นปรับ ที่ทำ New High อย่างกลุ่มของ Strong B ในต้นแบบ Flat ต่างก็เกิด ไดเวอร์เจนซ์ ขึ้นด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งไม่ใช่สถานะคลื่น เอเลียต คลื่นที่ 5

 

การใช้สัญญาณอินดิเคเตอร์เพื่อช่วยในกาพิจารณาสถานะคลื่นเป็นเพียงแค่เคล็ดลับมุมมองที่นำมาปรับใช้สำหรับเพื่อการนับคลื่นให้ง่าย แล้วก็รวดเร็วขึ้นเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นไม่ได้การันตีว่าสัญญาณจากIndicatorต่างๆจะถูกเสมอไป เราจำเป็นที่จะต้องใช้กฎและอัตราส่วนตามแนวความคิดสำหรับในการอ้างอิงการวิเคราะห์เป็นหลัก

 

  1. Elliott Wave สอน (ไม่!) จำเป็นต้องเริ่มนับ 12345

หลายหนเราเคยชินที่จะเริ่มนับคลื่น  12345 อย่างนี้เสมอ หารู้ไม่หุ้นบางตัวที่อยู่ในตลาดอาจไม่มีความจำเป็นต้องเริ่มนับอย่างงี้ก็ได้ ถ้าเกิดส่วนประกอบของกราฟหุ้นไม่ถูกกฎของ Impulse Wave พวกเราจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนการนับคลื่น อีเลีต ในลักษณะดังกล่าว เปลี่ยนมาเป็น Correction Wave แทน    

 

  1. ระดับ Fibonacci ไม่ได้มีไว้ให้ราคาไปสัมผัสแล้ว “มั่ว” ว่านั่นเป็นTP

อัตราส่วน ฟีโบต่างๆมีไว้เพื่อแบ่งขอบเขตอัตราส่วนของชุดคลื่น เอเลียต เพื่อวิเคราะห์ว่ารูปทรงการพักตัวหรือสัดส่วนแผนการที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในอัตราส่วนตามทฤษฎีเท่าใด เพื่อจะพินิจพิจารณาหาแนวทางความเป็นไปได้ของคำตอบที่จะเกิดขึ้น ว่าสามารถเกิดขึ้นไปยังแนวทางใดได้บ้าง แม้กระนั้นมิได้มีไว้เพื่อให้ราคามาทดสอบสัมผัส Level ฟีโบต่างๆรวมทั้ง “มั่ว” ว่านั่นเป็นTarget price

 

  1. Elliott Wave นับยังไงก็ได้ 10คนนับ ก็ได้ 10 แบบ

ไม่จริงขอรับ แนวคิดคลื่น เอเลีต มีหลักเกณฑ์อัตราส่วนที่เจาะจงเป็นข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อเป็นกรอบกรรมวิธีการพินิจพิจารณาที่ชัดเจน ด้วยเหตุนี้การนับคลื่นของแต่ละคนกับผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน ต้องมีผลต้นแบบโครงสร้างการนับคลื่นที่คล้ายคลึงกัน แต่ว่าสิ่งที่จะแตกต่างเป็นมุมมองของข้อสมมติฐานข้อแม้ในกรณีอื่นๆเพิ่ม ที่จึงควรวิเคราะห์ข้อสมมติการเคลื่อนที่ของราคาที่อิงกับแนวความคิดให้นานัปการแบบอย่างมากขึ้นเรื่อยๆ จุดนี้ขึ้นกับประสบการณ์ของผู้พินิจพิจารณาว่าสามารถแยกย่อยข้อสมมติฐานอื่นๆเพิ่มเติมได้มากน้อยแค่ไหน

 

  1. เรียน Elliott wave ยากที่จะทำความเข้าใจ วิเคราะห์แบบง่ายๆได้เงิน ก็พอ!

ถูกต้องครับจุดมุ่งหมายของการเทรดคือ กำไร เทรดแบบง่ายๆแล้วได้กำไร ไม่ผิดครับ แม้กระนั้นเทรดแล้วรู้เหตุและก็ผลการได้ตังค์ต่างหากที่สำคัญกว่า เพราะว่าการเทรดอย่างมีเหตุและก็ผลรองรับนั้น มันสามารถปฏิบัติทำซ้ำได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งต่างจากการเทรดแบบง่ายๆด้วยวิธีการวัดดวง…เงินทองเป็นของหายากจะนำมาเดิมพันด้วยวิธีการคิดแบบง่ายๆอย่างนี้นี้คุ้มแล้วหรือ?

อีเลีต เป็นแนวคิดที่ยากไม่มีผู้ใดที่อยากจะเสียเวล่ำเวลาทำความเข้าใจหรอก แต่ว่าด้วยปัญหาเกี่ยวกับการเทรดแบบเดิมๆที่ไม่อาจจะตอบโจทย์ ให้เหตุและผลที่เพียงพอต่อการวิเคราะห์ก็เลยเป็นต้นเหตุหนทำให้นักลงทุนบางกรุ๊ปเริ่มเข้ามาศึกษาทฤษฎี เอเลียต อย่างเอาจริงเอาจัง

 

ฝากติดตามเว็บ สอนเล่นหุ้นออนไลน์ และ สอน Elliott Wave สำหรับวิเคราะห์กราฟหุ้น ศึกษาได้Free ด้วยตัวเองฟรี ที่ "มโน - เวฟ ดอท คอม"

http://www.mano-wave.com

 

 



ขอบคุณบทความจาก : http://www.mano-wave.com/p/vdo-elliott-wave-elliott-wave.html

วันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2560

รวมข้อสงสัยของกราฟหุ้นในการวิเคราะห์หุ้น ตอน 2

 

9คำถามโลกแตกของ อีเลีต ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดสูงที่สุด (มหากาพย์ โต้แย้งกันไม่สิ้นสุด ตอน 2 )

 

ถ้าอยากเรียนรู้บทความตอน 1 ติดตามเว็บไซต์ สอนเล่นหุ้น เก็งกำไรฟรี ที่ มโน-เวฟ ดอท คอม ไปศึกษาเรียนรู้บทความกันต่อเลย . . .

 

 

 

 

 

 

  1. การนับคลื่น(ย่อย)หมายถึงความ มโน!

อ้าว! 2 ข้อก่อนหน้าพึ่งอธิบายไปว่าจำต้องให้ความสำคัญกับคลื่นย่อย…?

การนับคลื่น คือ ข้อมูลเชิงคุณภาพครับผมลองใคร่ครวญดูดีๆถึงแม้มี Key Word เริ่มต้นด้วยคำว่า “การนับ” แต่อย่าลืมว่าการนับคลื่นในแบบคุณ บางทีอาจจะนับคลื่นไม่เสมือนในแบบของคนอื่นก็ได้ โดยเหตุนี้จะนับคลื่นอย่างไร ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณมากที่สุดเพื่อลดความมโน ดังนี้

 

            1.ใช้อัตราส่วนทางทฤษฎีเป็นตัวอ้างอิงสำหรับในการนับคลื่น Elliott Wave ดังเช่นว่า จะนับคลื่น 2 ได้หรือเปล่านั้นพวกเราก็จำต้องเช็คกฎ Degree ว่าการปรับตัวได้เข้าเงื่อนไขตามทฤษฎีแล้วหรือยัง เป็นต้น

 

            2.ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณจากIndicatorช่วยนับคลื่น Elliott Wave  ตัวอย่างเช่น จากแนวทางการนับคลื่น เอลเลียต ของผมจะใช้สัญญาณ ไดเวอร์เจนซ์ จากIndicatorตัวเคลื่อนที่ช้า รวมทั้ง Divergence แฝง จากIndicatorตัวเคลื่อนไวสำหรับ ไว้ช่วยนับคลื่น อีเลีต เนื่องจากสัญญาณความขัดแยงต่างๆไม่ว่าจะเป็น ไดเวอร์เจนซ์ หรือ Hidden Divergence นั้น สามารถเปรียบเทียบหรือพินิจพิจารณาผลเป็นข้อมูลเชิงปริมาณได้

 

  1. สร้างสมมติฐานข้อจำกัดสำหรับในการวิเคราะห์ที่อ้างอิงกับทฤษฎี ดังเช่นว่า สมมติเรานับสถานะคลื่น อีเลีต ได้ 1 Cuase พวกเราจึงควรวิเคราะห์ให้ได้ต่อว่าต่อขาน แบบอย่างดังที่ได้กล่าวมาแล้วสามารถวิเคราะห์แบ่งย่อยเพิ่มได้เป็นกรณีไหนบ้าง, จุดไหนคอนเฟริม, อิงแนวความคิดข้อไหน, และเพราะเหตุใด รวมถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นนั้น สามารถเคลื่อนไปยังทิศทางไหนได้บ้าง เป็นต้น

 

ถ้าเกิดคุณใช้องค์ประกอบเทคนิค 3 ข้อในการนับคลื่นดังที่ได้กล่าวมาแล้วที่ผมแนะนำ ผลจากการวิเคราะห์ที่ออกมาก็จะอิงข้อมูลเชิงปริมาณมากกว่าข้อมูลเชิงประสิทธิภาพแล้วก็นำมาซึ่งการทำให้การนับคลื่น Elliott Wave ของคุณ ลดความมโน นั่นเอง            

 

  1. จริงหรือ! ไดเวอร์เจนซ์หมายถึงคลื่น อีเลีต คลื่นที่ 5

ส่วนมากแล้วคลื่นที่ 5 มักกำเนิดสัญญาณ Divergence แต่ว่าใช่ว่ากำเนิดสัญญาณ Divergence ขึ้นแล้วควรเป็นคลื่น 5 เสมออย่ารู้ผิดครับ

 เนื่องจากว่าแบบอย่าง คลื่นปรับ ที่ทำ New High อย่างกรุ๊ปของ Strong B ในแบบ Flat ต่างก็เกิด ไดเวอร์เจนซ์ ขึ้นด้วยกันทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่สถานะคลื่น เอเลีต คลื่นที่ 5

 

การใช้สัญญาณIndicatorเพื่อช่วยในกาพิจารณาสถานะคลื่นเป็นเพียงแนวทางมุมมองที่เอามาประยุกต์สำหรับในการนับคลื่นให้ง่าย และก็รวดเร็วทันใจขึ้นเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นไม่ได้การันตีว่าสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ต่างๆจะถูกต้องเสมอ เราจำเป็นที่จะต้องใช้กฎแล้วก็อัตราส่วนตามทฤษฎีสำหรับการอ้างอิงการวิเคราะห์เป็นหลัก

 

  1. Elliott Wave สอน (ไม่!) จำเป็นต้องเริ่มนับ 12345

บ่อยครั้งพวกเราคุ้นชินที่จะเริ่มต้นนับคลื่น  12345 แบบนี้เสมอ หารู้ไม่หุ้นบางตัวที่อยู่ในตลาดอาจไม่มีความจำเป็นต้องเริ่มนับแบบงี้ก็ได้ ถ้าหากโครงสร้างของแผนภูมิหุ้นผิดกฎของ Impulse Wave พวกเราจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงการนับคลื่น เอเลีต ในลักษณะดังที่กล่าวถึงมาแล้ว เปลี่ยนมาเป็น Correction Wave แทน    

 

  1. อัตราส่วน ฟิโบนันชี มิได้มีไว้แท่งราคาไปสัมผัสแล้ว “มั่ว” ว่านั่นเป็นTarget Price

อัตราส่วน ฟิโบนันชีต่างๆมีไว้เพื่อแบ่งขอบเขตอัตราส่วนของชุดคลื่น เอเลียต เพื่อวิเคราะห์ว่ารูปทรงการพักตัวหรือรูปร่างเป้าหมายที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในอัตราส่วนตามแนวความคิดเท่าใด เพื่อจะวิเคราะห์หาทางความเป็นไปได้ของผลที่จะเกิดขึ้น ว่าสามารถเกิดขึ้นไปยังแนวทางใดได้บ้าง แต่มิได้มีไว้เพื่อให้ราคามาทดสอบสัมผัส Level ฟีโบต่างๆและก็ “มโน” ว่านั่นเป็นTarget price

 

  1. เอเลีต นับอย่างไรก็ได้ 10คนนับ ก็ได้ 10 แบบ

ไม่จริงครับผม แนวความคิดคลื่น Elliott Wave มีกฎที่ต้องปฏิบัติตามอัตราส่วนที่กำหนดเป็นข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อเป็นกรอบกรรมวิธีการพินิจพิจารณาที่เด่นชัด โดยเหตุนั้นการนับคลื่นของแต่ละคนกับผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน ควรมีผลแบบส่วนประกอบการนับคลื่นที่คล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่จะต่างกันเป็นมุมมองของข้อสมมติฐานข้อตกลงในกรณีอื่นๆเพิ่มเติม ที่ควรต้องวิเคราะห์ข้อสมมติการเคลื่อนที่ของราคาที่อิงกับแนวคิดให้นานาประการแบบอย่างมากขึ้น จุดนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้พินิจพิจารณาว่าสามารถแยกย่อยข้อสมมติฐานอื่นๆเพิ่มได้มากน้อยแค่ไหน

 

  1. เรียน Elliott wave ยากที่จะทำความเข้าใจ วิเคราะห์แบบง่ายๆได้กำไร ก็เพียงพอ!

ถูกครับผมเป้าหมายของการเทรดเป็น กำไร เทรดแบบง่ายๆแล้วได้เงิน ไม่ผิดครับผม แม้กระนั้นเทรดแล้วรู้เหตุแล้วก็ผลการได้ตังค์ต่างหากที่สำคัญกว่า เพราะว่าการเทรดอย่างมีเหตุและผลรองรับนั้น มันสามารถปฏิบัติทำซ้ำได้อย่างมีระบบ ซึ่งไม่เหมือนกับการเทรดแบบง่ายๆด้วยวิธีการวัดดวง…ทรัพย์สินเป็นของหายากจะนำมาเดิมพันด้วยแนวทางคิดแบบง่ายๆแบบงี้นี้คุ้มแล้วหรือ?

อีเลีต เป็นแนวความคิดที่ยากไม่มีใครที่อยากจะเสียเวล่ำเวลาเรียนรู้หรอก แต่ด้วยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเทรดแบบเดิมๆที่ไม่สามารถตอบโจทย์ ให้เหตุแล้วก็ผลที่เพียงพอต่อการวิเคราะห์ก็เลยเป็นสาเหตุหนทำให้นักลงทุนบางกรุ๊ปเริ่มเข้ามาศึกษาเล่าเรียนแนวคิด เอเลียต อย่างเอาจริงเอาจัง

 

ฝากติดตามเว็บไซต์ สอนเล่นหุ้นออนไลน์ และ สอน Elliott Wave สำหรับวิเคราะห์กราฟหุ้น ทำความเข้าใจได้ฟรี ด้วยตัวเองฟรี ที่ "มโน - เวฟ ดอท คอม"

http://www.mano-wave.com

 

 

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : เรียน Elliott Wave

เครดิต : http://www.mano-wave.com/p/vdo-elliott-wave-elliott-wave.html

วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

รวมคำถามของเทคนิคอลกราฟในการวิเคราะห์หุ้น ภาค 2

 

9ปริศนาโลกแตกของ เอเลียต ที่คนส่วนมากเข้าใจผิดมากที่สุด (มหากาพย์ โต้เถียงกันไม่รู้จบ ภาค 2 )

 

ถ้าต้องการเรียนบทความตอน 1 ติดตามเว็บ สอนเล่นหุ้น เก็งกำไรฟรี ที่ มโน-เวฟ ดอท คอม ไปทำความเข้าใจกับบทความกันต่อเลย . . .

 

 

 

 

 

 

  1. การนับคลื่น(ย่อย)เป็นความ มโน!

อ้าว! 2 ข้อก่อนหน้าพึ่งชี้แจงไปว่าจะต้องให้ความใส่ใจกับคลื่นย่อย…?

การนับคลื่นเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพครับลองตรึกตรองดูดีๆแม้ว่ามี Key Word ขึ้นต้นด้วยคำว่า “การนับ” แม้กระนั้นอย่าลืมว่าการนับคลื่นในแบบท่าน บางทีอาจจะนับคลื่นไม่เสมือนในแบบของท่านอื่นก็ได้ ด้วยเหตุดังกล่าวจะนับคลื่นยังไง ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณมากที่สุดเพื่อลดความมโน คือ

 

            1.ใช้อัตราส่วนทางด้านทฤษฎีเป็นตัวอ้างอิงสำหรับเพื่อการนับคลื่น เอเลียต ตัวอย่างเช่น จะนับคลื่น 2 ได้ไหมนั้นเราก็ต้องเช็คกฎ Degree ว่าการปรับนิสัยได้เข้าข้อตกลงตามแนวคิดแล้วหรือยัง ฯลฯ

 

            2.ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณจากIndicatorช่วยนับคลื่น อีเลียต  เช่น จากเทคนิคการนับคลื่น เอเลีต ของผมจะใช้สัญญาณ Divergence จากอินดิเคเตอร์ตัวเคลื่อนที่ช้า และ ฮิดเด้น ไดเวอร์เจนซ์ จากอินดิเคเตอร์ตัวเคลื่อนไวสำหรับ ไว้ช่วยนับคลื่น อีเลีต ด้วยเหตุว่าสัญญาณความขัดแยงต่างๆไม่ว่าจะเป็น ไดเวอร์เจนซ์ หรือ ฮิดเด้น Divregencr นั้น สามารถเปรียบหรือวิเคราะห์ผลเป็นข้อมูลเชิงปริมาณได้

 

  1. สร้างข้อสมมติข้อจำกัดสำหรับการพินิจพิจารณาที่อ้างอิงกับทฤษฎี ได้แก่ สมมุติพวกเรานับสถานะคลื่น อีเลียต ได้ 1 Cuase เราจำเป็นจะต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่ากล่าว ต้นแบบดังที่ได้กล่าวมาแล้วสามารถวิเคราะห์แยกย่อยเพิ่มเติมอีกได้เป็นกรณีไหนบ้าง, จุดไหนคอนเฟริม, อิงแนวความคิดข้อไหน, แล้วก็เพราะเหตุใด รวมทั้งผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นนั้น สามารถเคลื่อนไปยังทิศทางไหนได้บ้าง เป็นต้น

 

หากคุณใช้องค์ประกอบเคล็ดวิธี 3 ข้อสำหรับการนับคลื่นดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วที่ผมเสนอแนะ ผลที่เกิดจากการวิเคราะห์ที่ออกมาก็จะอิงข้อมูลเชิงปริมาณมากกว่าข้อมูลเชิงคุณภาพรวมทั้งส่งผลให้การนับคลื่น Elliott Wave ของคุณ ลดความมโน นั่นเอง            

 

  1. จริงหรือ! Divergence คือ คลื่น Elliott Wave คลื่นที่ 5

โดยมากแล้วคลื่นที่ 5 มักกำเนิดสัญญาณ ไดเวอร์เจนซ์ แต่ใช่ว่ากำเนิดสัญญาณ Divergence ขึ้นแล้วจะต้องเป็นคลื่น 5 เสมออย่าหลงผิดครับผม

 เหตุเพราะแบบอย่าง Correction Wave ที่ทำ New High อย่างกลุ่มของ Strong B ในแบบ Flat ต่างก็กำเนิด ไดเวอร์เจนซ์ ขึ้นร่วมกันทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่สถานะคลื่น อีเลียต คลื่นที่ 5

 

การใช้สัญญาณIndicatorเพื่อช่วยในกาพิจารณาสถานะคลื่นเป็นเพียงแนวทางมุมมองที่นำมาปรับใช้สำหรับในการนับคลื่นให้ง่าย รวมทั้งเร็วทันใจขึ้นแค่นั้น แต่ว่าไม่ได้การันตีว่าสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ต่างๆจะถูกต้องเสมอ พวกเราจำเป็นที่จะต้องใช้กฎและก็อัตราส่วนตามทฤษฎีสำหรับเพื่อการอ้างอิงการวิเคราะห์เป็นหลัก

 

  1. Elliott Wave สอน (ไม่!) จึงควรเริ่มนับ 12345

บ่อยครั้งเราชินที่จะเริ่มนับคลื่น  12345 แบบงี้เสมอ หารู้ไม่หุ้นบางตัวที่อยู่ในตลาดบางทีอาจไม่จำเป็นที่จะต้องเริ่มนับแบบนี้ก็ได้ ถ้าเกิดองค์ประกอบของแผนภูมิหุ้นไม่ถูกกฎของ Impulse Wave พวกเราจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงการนับคลื่น อีเลีต ในลักษณะดังที่กล่าวถึงแล้ว เปลี่ยนมาเป็น คลื่นปรับ แทน    

 

  1. อัตราส่วน Fibonacci มิได้มีไว้แท่งราคาไปสัมผัสแล้ว “มั่ว” ว่านั่นเป็นเป้าหมาย

ระดับ ฟิโบนันชีต่างๆมีไว้เพื่อแบ่งขอบเขตอัตราส่วนของชุดคลื่น อีเลียต เพื่อพินิจพิจารณาว่าสัดส่วนการพักตัวหรือรูปทรงเป้าหมายที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในอัตราส่วนตามแนวความคิดเท่าไหร่ เพื่อจะพินิจพิจารณาหาวิถีทางความเป็นไปได้ของผลที่จะเกิดขึ้น ว่าสามารถเกิดขึ้นไปยังทิศทางใดได้บ้าง แม้กระนั้นมิได้มีไว้เพื่อราคามาทดลองสัมผัส Level ฟีโบต่างๆรวมทั้ง “มโน” ว่านั่นเป็นTP

 

  1. อีเลีต นับยังไงก็ได้ 10คนนับ ก็ได้ 10 แบบ

ไม่จริงนะครับ ทฤษฎีคลื่น เอเลีต มีระเบียบอัตราส่วนที่กำหนดเป็นข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อเป็นกรอบวิธีการวิเคราะห์ที่แจ่มชัด ด้วยเหตุนี้การนับคลื่นของแต่ละคนกับสินค้าประเภทเดียวกัน จะต้องมีผลลัพธ์รูปแบบส่วนประกอบการนับคลื่นที่คล้ายกัน แม้กระนั้นสิ่งที่จะแตกต่างกันคือมุมมองของข้อสมมติฐานข้อตกลงในกรณีอื่นๆเพิ่มเติมอีก ที่จำเป็นที่จะต้องพินิจพิจารณาข้อสมมติการเคลื่อนที่ของราคาที่อิงกับทฤษฎีให้นานัปการต้นแบบเยอะขึ้นเรื่อยๆ จุดนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้วิเคราะห์ว่าสามารถแบ่งย่อยข้อสมมติฐานอื่นๆเพิ่มเติมอีกได้มากน้อยแค่ไหน

 

  1. เรียน Elliott wave ยากที่จะเรียนรู้ เทรดแบบง่ายๆได้ตังค์ ก็พอเพียง!

ถูกครับผมจุดหมายของการเทรดเป็น ผลกำไร เทรดแบบง่ายๆแล้วได้เงิน ไม่ผิดครับ แต่ว่าเทรดแล้วรู้เหตุรวมทั้งผลของการได้ตังค์ต่างหากที่สำคัญกว่า ด้วยเหตุว่าการเทรดอย่างมีเหตุแล้วก็ผลรองรับนั้น มันสามารถปฏิบัติทำอีกครั้งได้อย่างมีระบบ ซึ่งแตกต่างจากการเทรดแบบง่ายๆด้วยแนวทางวัดดวง…ทรัพย์สินเป็นของหายากจะนำมาเดิมพันด้วยแนวทางคิดแบบง่ายๆแบบงี้นี้คุ้มแล้วหรือ?

เอเลียต เป็นทฤษฎีที่ยากไม่มีผู้ใดที่อยากจะเสียเวล่ำเวลาศึกษาหรอก แต่ว่าด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเทรดแบบเดิมๆที่ไม่สามารถตอบปัญหา ให้เหตุรวมทั้งผลที่เพียงพอต่อการวิเคราะห์ก็เลยเป็นต้นเหตุคราวทำให้นักลงทุนบางกรุ๊ปเริ่มเข้ามาเล่าเรียนแนวความคิด เอเลียต อย่างเป็นจริงเป็นจัง

 

ฝากติดตามเว็บ สอนเล่นหุ้นออนไลน์ และ สอน Elliott Wave สำหรับวิเคราะห์กราฟหุ้น ศึกษาได้Free ด้วยตัวเองฟรี ที่ "มโน - เวฟ ดอท คอม"

http://www.mano-wave.com

 

 



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : http://www.mano-wave.com/p/vdo-elliott-wave-elliott-wave.html

วันอังคารที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2560

รวมอุปสรรคของTechnical Graphในการพินิจพิจารณาหุ้น ภาค 2

 

เก้าปัญหาโลกแตกของ อีเลีต ที่คนโดยมากเข้าใจผิดสูงที่สุด (มหากาพย์ โต้แย้งกันไม่สิ้นสุด ภาค 2 )

 

ถ้าเกิดต้องการศึกษาบทความภาค 1 ติดตามเว็บไซต์ สอนเล่นหุ้น เก็งกำไรฟรี ที่ มโน-เวฟ ดอท คอม ไปศึกษาเรียนรู้บทความกันต่อเลย . . .

 

 

 

 

 

 

  1. การนับคลื่น(ย่อย) คือ ความ มโน!

อ้าว! 2 ข้อก่อนหน้าพึ่งจะชี้แจงไปว่าจะต้องให้ความเอาใจใส่กับคลื่นย่อย…?

การนับคลื่นเป็นข้อมูลเชิงคุณภาพนะครับลองตรึกตรองดูดีๆถึงแม้มี Key Word ขึ้นต้นด้วยคำว่า “การนับ” แต่อย่าลืมว่าการนับคลื่นในแบบท่าน อาจจะนับคลื่นไม่เสมือนในแบบของผู้อื่นก็ได้ ด้วยเหตุดังกล่าวจะนับคลื่นยังไง ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณมากที่สุดเพื่อลดความมโน คือ

 

            1.ใช้อัตราส่วนทางทฤษฎีเป็นตัวอ้างอิงสำหรับในการนับคลื่น เอเลีต ยกตัวอย่างเช่น จะนับคลื่น 2 ได้ไหมนั้นเราก็จะต้องเช็คกฎ Degree ว่าการปรับพฤติกรรมได้เข้าข้อตกลงตามทฤษฎีแล้วหรือยัง ฯลฯ

 

            2.ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณจากIndicatorช่วยนับคลื่น อีเลีต  เป็นต้นว่า จากแนวทางการนับคลื่น เอลเลียต ของผมจะใช้สัญญาณ ไดเวอร์เจนซ์ จากIndicatorตัวเคลื่อนที่ช้า รวมทั้ง ฮิดเด้น ไดเวอร์เจนซ์ จากIndicatorตัวเคลื่อนไวสำหรับ ไว้ช่วยนับคลื่น อีเลีต เพราะสัญญาณความขัดแยงต่างๆไม่ว่าจะเป็น Divergence หรือ Hidden Divergence นั้น สามารถเปรียบเทียบหรือพินิจพิจารณาผลเป็นข้อมูลเชิงปริมาณได้

 

  1. สร้างสมมติฐานเงื่อนไขสำหรับการพินิจพิจารณาที่อ้างอิงกับทฤษฎี ได้แก่ สมมติเรานับสถานะคลื่น เอเลียต ได้ 1 กรณี เราจึงควรวิเคราะห์ให้ได้ต่อว่าต่อขาน แบบอย่างดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นสามารถวิเคราะห์แยกย่อยเสริมเติมได้เป็นกรณีไหนบ้าง, จุดไหนคอนเฟริม, อิงทฤษฎีข้อไหน, และเพราะอะไร แล้วก็คำตอบที่จะเกิดขึ้นนั้น สามารถเคลื่อนไปยังแนวทางไหนได้บ้าง ฯลฯ

 

ถ้าคุณใช้ส่วนประกอบแนวทาง 3 ข้อสำหรับในการนับคลื่นดังที่กล่าวถึงมาแล้วที่ผมชี้แนะ ผลการวิเคราะห์ที่ออกมาก็จะอิงข้อมูลเชิงจำนวนมากกว่าข้อมูลเชิงประสิทธิภาพรวมทั้งส่งผลให้การนับคลื่น เอเลีต ของคุณ ลดความมโน นั่นเอง            

 

  1. ใช่หรือ! Divergenceหมายถึงคลื่น เอลเลียต คลื่นที่ 5

ส่วนมากแล้วคลื่นที่ 5 มักกำเนิดสัญญาณ Divergence แม้กระนั้นใช่ว่าเกิดสัญญาณ Divergence ขึ้นแล้วควรจะเป็นคลื่น 5 เสมออย่ารู้ผิดครับ

 เหตุเพราะรูปแบบ Correction Wave ที่ทำ New High อย่างกลุ่มของ Strong B ในแบบ Flat ต่างก็กำเนิด Divergence ขึ้นร่วมกันทั้งนั้น ซึ่งไม่ใช่สถานะคลื่น เอลเลียต คลื่นที่ 5

 

การใช้สัญญาณอินดิเคเตอร์เพื่อช่วยในกาวิเคราะห์สถานะคลื่นเป็นเพียงแค่เทคนิคมุมมองที่นำมาปรับใช้ในการนับคลื่นให้ง่าย แล้วก็รวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ว่าไม่ได้การันตีว่าสัญญาณจากIndicatorต่างๆจะถูกต้องเสมอไป เราจำต้องใช้กฎแล้วก็อัตราส่วนตามแนวคิดในการอ้างอิงการวิเคราะห์เป็นหลัก

 

  1. Elliott Wave สอน (ไม่!) จำเป็นจะต้องเริ่มนับ 12345

บ่อยพวกเราคุ้นชินที่จะเริ่มนับคลื่น  12345 แบบงี้เสมอ หารู้ไม่หุ้นบางตัวที่อยู่ในตลาดบางทีอาจไม่จำเป็นที่จะต้องเริ่มนับอย่างนี้ก็ได้ หากองค์ประกอบของกราฟหุ้นผิดกฎของ Impulse Wave พวกเราจำต้องเปลี่ยนแปลงการนับคลื่น Elliott Wave ในลักษณะดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว เปลี่ยนแปลงมาเป็น Correction Wave แทน    

 

  1. ระดับ ฟีโบ มิได้มีไว้แท่งราคาไปสัมผัสแล้ว “มโน” ว่านั่นคือจุดหมาย

Level Fibonacciต่างๆมีไว้เพื่อแบ่งขอบเขตอัตราส่วนของชุดคลื่น อีเลีต เพื่อพินิจพิจารณาว่ารูปร่างการพักตัวหรือรูปร่างเป้าหมายที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในอัตราส่วนตามแนวความคิดเท่าไหร่ เพื่อจะพินิจพิจารณาหาวิถีทางความน่าจะเป็นของคำตอบที่จะเกิดขึ้น ว่าสามารถเกิดขึ้นไปยังแนวทางใดได้บ้าง แต่ว่าไม่ได้มีไว้เพื่อให้ราคามาทดสอบสัมผัส Level ฟีโบต่างๆและก็ “มั่ว” ว่านั่นเป็นTarget price

 

  1. เอลเลียต นับอย่างไรก็ได้ 10คนนับ ก็ได้ 10 แบบ

ไม่จริงนะครับ แนวความคิดคลื่น Elliott Wave มีกฎที่ต้องปฏิบัติอัตราส่วนที่ระบุเป็นข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อเป็นกรอบวิธีการพินิจพิจารณาที่แจ้งชัด ดังนั้นการนับคลื่นของแต่ละคนกับผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน จะต้องมีผลสรุปต้นแบบโครงสร้างการนับคลื่นที่คล้ายคลึงกัน แต่สิ่งที่จะต่างกันเป็นมุมมองของข้อสมมติฐานข้อจำกัดในกรณีอื่นๆเสริมเติม ที่จึงควรวิเคราะห์สมมติฐานการเคลื่อนที่ของราคาที่อิงกับแนวความคิดให้มากมายแบบมากขึ้นเรื่อยๆ จุดนี้ขึ้นกับประสบการณ์ของผู้วิเคราะห์ว่าสามารถแยกย่อยข้อสมมติฐานอื่นๆเพิ่มเติมอีกได้มากน้อยแค่ไหน

 

  1. เรียน Elliott wave ยากที่จะศึกษา วิเคราะห์แบบง่ายๆได้กำไร ก็พอ!

ถูกครับผมเป้าหมายของการเทรดเป็น กำไร เทรดแบบง่ายๆแล้วได้เงิน ไม่ผิดครับผม แต่เทรดแล้วทราบเหตุและผลของการได้ตังค์ต่างหากที่สำคัญกว่า เพราะว่าการเทรดอย่างมีเหตุและก็ผลรองรับนั้น มันสามารถปฏิบัติทำซ้ำได้อย่างมีระบบ ซึ่งต่างจากการเทรดแบบง่ายๆด้วยวิธีการวัดดวง…เงินทองเป็นของหายากจะนำมาพนันด้วยแนวทางคิดแบบง่ายๆแบบงี้นี้คุ้มแล้วหรือ?

อีเลียต เป็นทฤษฎีที่ยากไม่มีผู้ใดที่อยากจะเสียเวลาศึกษาหรอก แม้กระนั้นด้วยปัญหาการเทรดแบบเดิมๆที่ไม่อาจจะตอบปัญหา ให้เหตุและผลที่เพียงพอต่อการวิเคราะห์ก็เลยเป็นต้นเหตุครั้งทำให้นักลงทุนบางกรุ๊ปเริ่มเข้ามาเรียนรู้ทฤษฎี เอเลีต อย่างเป็นจริงเป็นจัง

 

ฝากติดตามเว็บ สอนเล่นหุ้นออนไลน์" href="http://www.mano-wave.com/p/youtube-channel-httpsgoo.html">สอนเล่นหุ้นออนไลน์ และ สอน Elliott Wave สำหรับพินิจพิจารณากราฟหุ้น ทำความเข้าใจได้ฟรี ด้วยตัวเองฟรี ที่ "มโน - เวฟ ดอท คอม"

http://www.mano-wave.com

 

 



ที่มา : http://www.mano-wave.com/p/youtube-channel-httpsgoo.html

วันจันทร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2560

รวมปมปัญหาของกราฟหุ้นในการวิเคราะห์หุ้น ตอน 2

 

9คำถามโลกแตกของ เอเลียต ที่คนส่วนมากเข้าใจผิดเยอะที่สุด (มหากาพย์ โต้แย้งกันไม่รู้จบ ตอน 2 )

 

แม้อยากศึกษาบทความตอน 1 ติดตามเว็บไซต์ สอนเล่นหุ้น เก็งกำไรฟรี ที่ มโน-เวฟ ดอท คอม ไปทำความเข้าใจกับบทความกันต่อเลย . . .

 

 

 

 

 

 

  1. การนับคลื่น(ย่อย) คือ ความ มโน!

อ้าว! 2 ข้อก่อนหน้าพึ่งจะอธิบายไปว่าต้องให้ความสำคัญกับคลื่นย่อย…?

การนับคลื่นหมายถึงข้อมูลเชิงคุณภาพนะครับลองพิเคราะห์ดูดีๆถึงมี Key Word เริ่มต้นด้วยคำว่า “การนับ” แม้กระนั้นอย่าลืมว่าการนับคลื่นในแบบท่าน บางครั้งก็อาจจะนับคลื่นไม่เหมือนในแบบของผู้อื่นก็ได้ เพราะฉะนั้นจะนับคลื่นยังไง ให้เป็นข้อมูลเชิงปริมาณมากที่สุดเพื่อลดความมโน ดังนี้

 

            1.ใช้อัตราส่วนทางด้านทฤษฎีเป็นตัวอ้างอิงในการนับคลื่น เอลเลียต ตัวอย่างเช่น จะนับคลื่น 2 ได้หรือเปล่านั้นพวกเราก็จำต้องเช็คกฎ Degree ว่าการปรับตัวได้เข้าข้อตกลงตามแนวความคิดแล้วหรือยัง ฯลฯ

 

            2.ใช้ข้อมูลเชิงปริมาณจากอินดิเคเตอร์ช่วยนับคลื่น Elliott Wave  ยกตัวอย่างเช่น จากแนวทางการนับคลื่น เอเลียต ของผมจะใช้สัญญาณ Divergence จากอินดิเคเตอร์ตัวเคลื่อนที่ช้า และ Hidden Divergence จากอินดิเคเตอร์ตัวเคลื่อนไวสำหรับ ไว้ช่วยนับคลื่น อีเลีต ด้วยเหตุว่าสัญญาณความขัดแยงต่างๆไม่ว่าจะเป็น ไดเวอร์เจนซ์ หรือ ฮิดเด้นไดเวอร์เจนซ์ นั้น สามารถเทียบหรือพินิจพิจารณาผลเป็นข้อมูลเชิงปริมาณได้

 

  1. สร้างสมมติฐานเงื่อนไขสำหรับในการพินิจพิจารณาที่อิงกับทฤษฎี อย่างเช่น สมมติพวกเรานับสถานะคลื่น อีเลียต ได้ 1 Cuase พวกเราจำเป็นต้องพินิจพิจารณาให้ได้ว่ากล่าว ต้นแบบดังที่กล่าวผ่านมาแล้วสามารถพินิจพิจารณาแบ่งย่อยเพิ่มอีกได้เป็นกรณีไหนบ้าง, จุดไหนคอนเฟริม, อิงแนวความคิดข้อไหน, และทำไม รวมถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นนั้น สามารถเคลื่อนไปยังทิศทางไหนได้บ้าง เป็นต้น

 

แม้คุณใช้ส่วนประกอบเคล็ดวิธี 3 ข้อสำหรับการนับคลื่นดังที่กล่าวมาแล้วที่ผมชี้แนะ ผลที่เกิดจากการวิเคราะห์ที่ออกมาก็จะอิงข้อมูลเชิงปริมาณมากกว่าข้อมูลเชิงประสิทธิภาพและทำให้การนับคลื่น เอลเลียต ของคุณ ลดความมโน นั่นเอง            

 

  1. จริงหรือ! ไดเวอร์เจนซ์เป็นคลื่น อีเลีต คลื่นที่ 5

ส่วนมากแล้วคลื่นที่ 5 มักกำเนิดสัญญาณ Divergence แต่ใช่ว่ากำเนิดสัญญาณ Divergence ขึ้นแล้วต้องเป็นคลื่น 5 เสมออย่ารู้ผิดครับผม

 เพราะเหตุว่าแบบ คลื่นปรับ ที่ทำ New High อย่างกรุ๊ปของ Strong B ในแบบอย่าง Flat ต่างก็เกิด ไดเวอร์เจนซ์ ขึ้นด้วยกันทั้งหมด ซึ่งไม่ใช่สถานะคลื่น อีเลีต คลื่นที่ 5

 

การใช้สัญญาณIndicatorเพื่อช่วยในกาพิจารณาสถานะคลื่นเป็นเพียงแนวทางมุมมองที่นำมาปรับใช้ในการนับคลื่นให้ง่าย แล้วก็เร็วขึ้นเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นไม่ได้การันตีว่าสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ต่างๆจะถูกเสมอไป เราจำเป็นจะต้องใช้กฎและอัตราส่วนตามแนวคิดสำหรับเพื่อการอ้างอิงการวิเคราะห์เป็นหลัก

 

  1. Elliott Wave สอน (ไม่!) จำเป็นต้องเริ่มนับ 12345

บ่อยครั้งพวกเราคุ้นชินที่จะเริ่มนับคลื่น  12345 อย่างนี้เสมอ หารู้ไม่หุ้นบางตัวที่อยู่ในตลาดบางทีอาจไม่มีความจำเป็นที่ต้องเริ่มนับอย่างงี้ก็ได้ ถ้าเกิดองค์ประกอบของกราฟหุ้นผิดกฎของ Impulse Wave พวกเราจำต้องเปลี่ยนการนับคลื่น เอลเลียต ในลักษณะดังที่กล่าวถึงแล้ว แปลงมาเป็น คลื่นปรับ แทน    

 

  1. อัตราส่วน ฟีโบ มิได้มีไว้แท่งราคาไปสัมผัสแล้ว “มโน” ว่านั่นคือTP

อัตราส่วน ฟิโบนันชีต่างๆมีไว้เพื่อแบ่งขอบเขตอัตราส่วนของชุดคลื่น เอเลียต เพื่อพินิจพิจารณาว่ารูปทรงการพักตัวหรือรูปร่างแผนการที่เกิดขึ้นนั้นอยู่ในอัตราส่วนตามแนวคิดเท่าไหร่ เพื่อจะวิเคราะห์หาทางความน่าจะเป็นของผลสรุปที่จะเกิดขึ้น ว่าสามารถเกิดขึ้นไปยังแนวทางใดได้บ้าง แม้กระนั้นไม่ได้มีไว้เพื่อให้ราคามาทดลองสัมผัส Level ฟีโบต่างๆและก็ “มั่ว” ว่านั่นเป็นเป้าหมาย

 

  1. อีเลีต นับอย่างไรก็ได้ 10คนนับ ก็ได้ 10 แบบ

ไม่จริงครับ ทฤษฎีคลื่น Elliott Wave มีกฎข้อบังคับอัตราส่วนที่กำหนดเป็นข้อมูลเชิงปริมาณเพื่อเป็นกรอบกรรมวิธีพินิจพิจารณาที่กระจ่าง ด้วยเหตุนี้การนับคลื่นของแต่ละคนกับผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกัน ควรจะมีผลแบบอย่างองค์ประกอบการนับคลื่นที่คล้ายกัน แต่ว่าสิ่งที่จะไม่เหมือนกันเป็นมุมมองของข้อสมมติฐานข้อแม้ในกรณีอื่นๆเพิ่ม ที่ควรต้องพินิจพิจารณาข้อสมมติการเคลื่อนที่ของราคาที่อิงกับทฤษฎีให้นานาประการแบบเพิ่มมากขึ้น จุดนี้ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของผู้วิเคราะห์ว่าสามารถแบ่งย่อยข้อสมมติฐานอื่นๆเสริมเติมได้มากน้อยเพียงใด

 

  1. เรียน Elliott wave ยากที่จะศึกษา วิเคราะห์แบบง่ายๆได้ตังค์ ก็เพียงพอ!

ถูกขอรับวัตถุประสงค์ของการเทรดเป็น กำไร เทรดแบบง่ายๆแล้วได้เงิน ไม่ผิดครับผม แม้กระนั้นเทรดแล้วรู้เหตุและก็ผลการได้ตังค์ต่างหากที่สำคัญกว่า เพราะการเทรดอย่างมีเหตุรวมทั้งผลรองรับนั้น มันสามารถปฏิบัติทำซ้ำได้อย่างมีระบบ ซึ่งต่างจากการเทรดแบบง่ายๆด้วยแนวทางวัดดวง…ทรัพย์สินเป็นของหายากจะนำมาพนันด้วยแนวทางคิดแบบง่ายๆอย่างนี้นี้คุ้มแล้วหรือ?

อีเลีต เป็นทฤษฎีที่ยากไม่มีผู้ใดที่อยากจะเสียเวล่ำเวลาเรียนรู้หรอก แม้กระนั้นด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นกับการเทรดแบบเดิมๆที่ไม่อาจจะตอบปัญหา ให้เหตุและก็ผลที่พอเพียงต่อการวิเคราะห์จึงเป็นต้นเหตุคราวทำให้นักลงทุนบางกรุ๊ปเริ่มเข้ามาเรียนรู้ทฤษฎี เอเลียต อย่างจริงจัง

 

ฝากติดตามเว็บไซต์ สอนเล่นหุ้นออนไลน์ และ สอน Elliott Wave สำหรับพินิจพิจารณากราฟหุ้น ศึกษาได้Free ด้วยตัวเองฟรี ที่ "มโน - เวฟ ดอท คอม"

http://www.mano-wave.com

 

 



เครดิต : http://www.mano-wave.com/p/youtube-channel-httpsgoo.html